มาต่อแล้วครับ สำหรับบทความ เรื่อง ประสบการณ์การสอบ CCIE ในตอนที่ 2 ซึ่งในตอนแรกผมก็จะกล่าวถึงตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงช่วง 3 เดือนก่อนสอบ ในตอนที่ 2 ผมจะต่อจากตอนที่แล้ว ขยับมาถึงช่วง 1 เดือนก่อนสอบ ช่วงเวลาที่บีบหัวใจสุดๆครับ มาดูต่อกันเลยครับว่าจะเป็นยังไงต่อ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน ตอนที่ 1 สามารถเข้าไปอ่านตอนที 1 ได้จากลิงค์นี้นะครับ เพื่อความต่อเนื่อง
>> ประสบการณ์การสอบ CCIE ตอนที่ 1 <<
เดือนสุดท้ายก่อนสอบ >>>
หลังจากที่ผมได้ฝึกทำ LAB มาแล้ว ผมเหลือเวลา 1 เดือน ผมใช้เวลา 1 เดือนนี้ ทบทวน LAB ทั้งหมดครับ เนื่องจากเริ่มมีความคล่องมือทำให้ผมใช้เวลาทบทวนน้อยลงครับ จากทำตอนแรกใช้เวลา 5-7 วัน เหลือเพียง 2-3 วัน ไอช่วง 1 เดือนที่เหลือนี่แหละครับมันสุดยอดมากจริงๆ หัวหน้าผมให้ผมหยุด 1 เดือน เพื่อสำหรับเตรียมตัวสอบเต็มๆ ผมใช้เวลาที่ผมได้หยุด 1 เดือน ได้คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง 3 !!! ถุ้ย ไม่ใช่ นั่นมันสโลแกนช่อง 3 แหม่!!!
ได้หยุด 1 เดือนเต็ม ก็สบายหน่อยละ อิอิ 2 วันแรก ผมนอนอย่างเดียวเลยครับ 555+ เหนื่อยจากงาน พอได้หยุดทั้งทีก็ นอนก่อนเลย ตื่นมากินข้าว แล้วก็เล่นเกมส์ DotA จากนั้นก็ต่อด้วยเล่นเกมส์ PES เอาง่ายๆ นอนกับเล่นเกมส์รัวๆ เลยครับ ฮ่าๆๆๆ ผ่านไป 2 วัน ได้ผ่อนคลายไปแล้ว ก็กลับมาลุย LAB ต่อครับ
ผมใช้เวลาทุกนาทีไปอย่างคุ้มค่าจริงๆครับ โดยผมทำตารางเวลาใส่ Excel ครับ เพื่อจะได้เอาไว้ดูว่า วันไหนผมจะต้องทำแลปชุดไหนบ้าง และใน 1 วัน นั้นผมแบ่งเวลาแบบนี้ครับ
8.00 - 12.00 ซ้อม LAB
12.00 - 13.00 พักผ่อน
13.00 - 17.00 ซ้อม LAB
17.00 - 19.00 พักผ่อน
19.00 - 23.00 ซ้อม LAB
เอาง่ายๆครับ ซ้อม LAB ทั้งวันกันเลยทีเดียวครับ จนแฟนผมเริ่มบ่นๆละครับ ว่า ไม่มีเวลาให้เลย 555 ในสัปดาห์นึงผมเลยต้องแบ่งเวลาออกไป 1 วัน ให้แฟนครับ T-T (ระวังนะครับ ใครคิดจะสอบ CCIE แล้วไม่ตกลงกับแฟนดีๆนี่ เดี๋ยวจะมีปัญหากันได้นะครับ)
ผมเริ่มลุย LAB ต่อทันทีครับ ช่วงนั้นคือเดือนเมษายน 2014 ครับ ผมทบทวนมาเรื่อยๆครับ จนกระทั่งมาถึงวันหยุดยาวในดือนเมษายนครับ คงเดากันไม่ยากใช่ไหมครับ !!! ใช่ครับ มันคือ สงกรานต์.... ช่วงสงกรานต์ ผมก็กลับบ้านครับ กะว่า กลับไปบ้านชิลๆ นั่งทบทวน LAB ไปด้วย แต่ !! มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมกลับบ้านไป ญาติๆ มากัน มีกิจกรรมกัน ไปนู่นไปนี่ ทำให้ผมไม่ได้ทำ LAB เลย แม้แต่นิดเดียว แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสนะ ผมคิดว่าแค่ไม่กี่วัน คงไม่ลืมหรอก พอหมดสงกรานต์ผมกลับมาที่หอ เริ่มทวน LAB ต่อ ซวยยแล้ว ลืมมมม ครับ !!!! ลืมจริงๆ จำไม่ได้ว่าจะต้อง Config ยังไง ลืม Command ครับ T-T สบายยยแล้วกรู มานั่งรื้อฟิ้นใหม่ครับ แต่โชคดีที่ยังใช้เวลารื้อฟื้นไม่นาน ผมใช้เวลาอยู่ 1 สัปดาห์ ความทรงจำผมถึงกลับมาเหมือนเดิม ผมคิดในใจเลยว่า คราวนี้ ผมจะต้องทวนทุกวัน และห้ามทิ้งไปโดยไม่ทวนเกิน 1 วันครับ ไม่งั้นลืมมม แน่นอน และช่วงเดือนสุดท้ายนี่แหละ ผมซื้ออาหารเสริมแบบจัดเต็ม ทั้ง แบรนด์เม็ด แบรนด์ขวด บำรุงซะหน่อย
กำหนดเวลาตัวเอง >>>
การทวน LAB ซ้ำๆบ่อยๆ ทำให้ผมคล่องมือขึ้นเรื่อยๆ และใช้เวลาทำ LAB น้อยลงครับ ผมตั้งเป้าไว้ว่า LAB Config จะต้องใช้เวลาทำให้เสร็จไม่เกิน 5 ชม. หรือพูดง่ายๆก็คือ LAB Config ต้องใช้เวลาไม่เกิน 5 ชม. และ LAB Troubleshooting ต้องใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. ครับ ทำไมผมถึงตั้งเป้าไว้แบบนั้น เหตุผลก็เพราะว่า >>> ตอนสอบจริง จะมีเวลาให้ทำข้อสอบทั้งหมด 8 ชม. โดยแบ่งเป็น LAB Config 6 ชม. และ LAB Troubleshooting 2 ชม. <<< นี่แหละครับ ผมเลยต้องจำกัดเวลาตัวเองให้ทำได้ไม่เกินนี้นั่นเอง ผมใช้เวลาที่เหลือฝึกๆๆๆๆ ทวนๆๆๆๆ จนผมสามารถทำเวลาได้ตามที่ผมกำหนดครับ สุดยอด ผมโคตรดีใจเลยครับ
และผมก็ยังซ้อมๆๆๆ ต่อไปเรื่อยๆครับ ทำให้เวลาให้คงที่ที่สุด ไอช่วงนี้แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ วันๆอยู่แต่หน้าคอม ทำแต่ LAB อย่างเดียว ตอนกลางคืนนอนนี่ถึงกับฝันออกมาเป็น Command เลยทีเดียว แต่ก็ยังมีวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ได้ออกไปนัดเจอกับทีมงานกลุ่มเพื่อแชร์ข้อมูลกันบ้าง >.< ผมซ้อมๆๆ จนกระทั่งผมจำ Command ได้ทั้งหมดครับ
ต้องแม่น Command >>>
ในตอนนี้ผมสามารถอ่านโจทย์แล้วพิมพ์ Command ลงใน Notepad ได้เลย ผมจะเรียกว่าทำ LAB แห้ง คือไม่พิมพ์ Command ลงใน LAB จริง แต่อ่านโจทย์แล้วพิมพ์ Command ลงใน Notepad ได้เลย เวลาผมออกไปข้างนอก บางทีผมก็ไปนั่งร้านกาแฟ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ผมก็โยนโจทย์ใส่ iPad ไว้ แล้วเขียน Config ใส่กระดาษ เป็นการทำ LAB แห้งอีกแบบนึง บางคนอาจมีคำถามว่า ทำไมผมไม่ทำ LAB แห้งตั้งแต่แรก คำตอบคือ !! การที่เราทำ LAB จริง หรือ พิมพ์ลงใน Simulator หรือ GNS3 ทำให้เราเห็น Output ครับ เห็นผลที่เกิดจาก Command ที่เราพิมพ์เข้าไป ว่ามัน Error ตรงไหน ใส่ Command นี้แล้วเกิดผลอย่างไร ถ้าไม่ใส่แล้วจะเป็นแบบไหน เวลาเกิดปัญหาแล้ว Debug ดูจะเป็นแบบไหน นั่นล่ะครับคือคำตอบ !!! ผมใช้เวลาในการทบทวน LAB ประมาณ 1 เดือน โดยเริ่มนับจากทำครั้งแรกจนถึงครั้งสุดท้าย ผมทำ LAB
อุปสรรคมาอีกครั้ง >>>
มันกำลังจะเป็นไปได้สวยอยู่แล้วเชียว แต่ Cisco ดันเปลี่ยนข้อสอบอีกแล้ว ผมอุทานในใจ "ชิบหายยยแล้ว" ผมเลยเข้าไปดูในบอร์ดกับคุยกับกลุ่มของผม ปรากฎว่าข้อสอบเปลี่ยนจริงๆ มีคนเจอมาแล้ว ผมเครียดเลยเอาไงดี พอตั้งสติได้ ผมเหลือเวลาไม่ถึง 10 วันก่อนบินไปสอบ ก็เลยได้แต่ภาวนาครับ ขอให้ผมไปแล้วยังไม่เจอที่มันเปลี่ยนแล้วกัน
พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ >>>
ผมหาเวลาไปไหว้พระครับ ผมไปไหว้พระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้ว ซึ่งหลวงพ่อแก้วเป็นที่เคารพนับถือของครอบครัวผมมาตั้งแต่ผมเกิด ผมจะไปกราบท่านและนำไข่ต้มไปไหว้ท่านทุกปีในวันเกิด ผมไปขอพรให้ผมสอบผ่าน และ เดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ โดยถ้าผมสอบผ่านผมจะนำไข่ต้มมาถวาย 99 ฟอง อย่างน้อยก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาได้บ้าง
ฝึกจากของจริง >>>
หลังจากที่ฝึกจาก Simulator หรือ GNS3 มานาน ผมก็เลยคิดว่า เราจะต้องฝึกกับของจริงบ้างเพื่อให้เห็นภาพและชินมือ ผมเลยไปเช่า Rack จริงของต่างประเทศ มาฝึกทำครับ ก็เช่ามาทำอยู่ 1 อาทิตย์ ให้คล่องมือนิดนึง ก็จะเจอปัญหาบางอย่าง เช่น บาง Command พอ Config ลงของจริงแล้วไม่เข้า จะต้องใส่อีก Command นึง อะไรทำนองนี้ ทำให้เรารู้ก่อนที่จะไปเจอตอนสอบจริง
ถึงเวลาบิน >>>
เวลาประมาณ 18.00น. ผมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมออกเดินทาง เครื่องออกเวลาประมาณ 22.00น. ครับ ผมไปกับพี่ที่ออฟฟิศผม หลังจากเจอกันแล้วก็ไปโหลดประเป๋า แล้วก็ไปหาข้าวกินกัน ห จากนั้นพอใกล้ถึงเวลาก็เดินไปที่ ตม. แล้วก็ไปรอที่ Gate ครับ นั่งคุยๆกับพี่เรื่องข้อสอบไปเรื่อยๆ จนพนักงานประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่องละ ก็ขึ้นไปนั่งรอบนเครื่อง ถึงเวลา ประมาณ 22.00น. เครื่องออกผมกับพี่ก็ใช้เวลาคุยกันเรื่องข้อสอบ เพราะแถวที่ผมนั่งมีผมกับพี่แค่ 2 คน ผมเอาโจทย์ข้อสอบโยนใส่ไว้บน Dropbox แล้วเปิดผ่าน iPad จากนั้นผมก็ใช้ สมุดขึ้นมาเขียน Config ครับ ทำ LAB แห้งนั่นเอง ก็ทวนคร่าวๆทุกชุดเลย ใช้เวลาราวๆ 2 ชม. ถึงเวลา เที่ยงคืน ผมก็นอนพักครับ โชคดีหน่อยที่บนเครื่องรอบขาไปไม่มีเด็ก ก็เลยเงียบหน่อย ถึงจะหลับๆตื่นๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้นอน
เหยียบแดนจิงโจ้ครั้งแรก >>>
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเครื่องบินจะลง ผมก็ตื่นมากินอาหารเช้าที่เครื่องบินจัดไว้ให้ แล้วเครื่องก็ลงจอดที่สนามบินที่ออสเตรเลีย เวลาที่ออสเตรเลียประมาณ 7.00น. ครับ เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ผมลงมาจากเครื่องผ่าน ตม. ออสเตรเลีย ก็กลัวๆเหมือนกันครับ เพราะกฎระเบียบเค้าเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ผ่าน ตม. ออกมารอรับกระเป๋าครับ แล้วก็หาทางไปครับทีนี้ 555+ ผมเดินไปหารถไฟเข้าเมืองก่อนเลย ผมจะไปพักที่แถวๆ Chatswood ครับ ซึ่งไกลจากสนามบินเหมือนกัน ก็เลยหาเส้นทางว่าจะต้องขึ้นรถไฟสายไหนดี สุดท้ายมองหน้ากับพี่ อ่ะ ไปสายนี้แหละวะ แล้วก็นั่งไปครับ รถไฟบ้านเค้าดูดีมาก สองชั้น วิ่งทั่วเกาะเลย
สรุปผมซื้อตั๋วผิด 555+ ต้องลงสถานีนึงก่อน แล้วไปซื้อใหม่ ผมตั้งใจว่าจะไปดูสถานที่สอบก่อนแล้วค่อยแวะเข้าโรงแรม ตอนเช้าตอนไปสอบจะได้ไปถูก จนสุดท้ายผมก็มาถึงสถานี St Leonards
แล้วก็เดินหาตึกสอบครับ วนไปวนมาอยู่พักนึงแล้วก็หาเจอครับ เห็นป้าย Cisco ละ เลยเดินเข้าไปดูว่าอยู่ชั้นไหน ยังไง
พอรู้ที่รู้ทางแล้ว ผมก็เดินทางเข้าโรงแรมครับ ห่างจากสถานีของตึกสอบไม่กี่สถานี ผมกลับเข้าโรงแรมไปลงสถานี Chatswood แล้วก็เดินหาโรงแรมอยู่ซักพัก ผมก็เข้า Check-in ที่โรงแรม THE SEBEL ครับ
ห้องกว้างดีครับ พอถึงโรงแรมประมาณ 12.00น. ผมกับพี่ก็ทำภารกิจที่สำคัญก่อนเลยครับ นั่นก็คือ !!! นอน... 555+ ต่างคนต่างนอนครับ จนช่วงบ่าย 2 ก็ลงไปเดินหาของกินครับ แถว Chatswood หาไรกินยากมากครับ เป็นโซนเมืองเก่า มีแต่อาหารจีน หายากมากๆ จนเดินไปเจอร้านอาหารญี่ปุ่น เอาวะ !! กินง่ายสุดละ เลยซัดไปซะอิ่มเลย จากนั้นซื้อน้ำ ซื้อขนม กลับเข้าไปที่ห้อง เตรียมตัวทบทวน LAB ครับ ซึ่งผมจะสอบก่อนครับ ก็คือวันพรุ่งนี้ ส่วนพี่ผมสอบวันมะรืน ผมเลยเครียดก่อน เพราะสอบก่อน เครียดก่อน 555+ ก็นั่งทบทวนจนถึงช่วงเย็นประมาณ 1 ทุ่ม ผมกับพี่ก็เลยเดินลงไปหาข้าวเย็นกินครับ แล้วก็ซื้อแซนวิชขึ้นมาไว้กินช่วงเช้าครับ ผมซ้อมต่อจนถึงเที่ยงคืน จนพี่ไล่ผมไปนอน ฮ่าๆๆ ให้รีบนอนเดี๋ยวสมองล้า
ถึงเวลาขึ้นเขียง >>>
ตอนเช้าผมตื่นมาตอน 6 โมงเช้าครับ ใช้เวลา 1 ชม. ทบทวนทั้งหมดอีกครั้ง พอเวลา 7 โมง ผมก้ไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ออกเดินทางครับ พี่ผมไปด้วย เค้าบอกว่าเดี๋ยวไปส่ง 555+ ใจดีมาก ไปถึงตึก Cisco ประมาณ 7.45 ครับ แต่ออฟฟิศ Cisco ยังไม่เปิด !!!! ผมเลยต้องเดินมานั่งรอที่สวนด้านล่างครับ จนถึงประมาณ 8 โมงนิดๆ ก็เดินขึ้นไปยืนรอด้านบนครับ มีหลายคนเลยที่มาสอบวันนั้นครับ แล้วพนักงานก็เดินมาเปิดออฟฟิศ ถามว่า "Take the CCIE LAB Exam ?" ก็ตอบไปกันว่า "Yes" จากนั้นพนักงาน Cisco ก็บอกให้มานั่งรอ Proctor ด้านในครับ Proctor แม่งมาสายครับ มาถึงตอน 8.30น. แล้วก็เอาใบเซ็นชื่อมาให้เซ็น แล้วก็ถามเราว่าสอบ Track ไหน ผมบอกว่า "Routing and Switching" พอเซ็นชื่อหมดทุกคนแล้ว ก็พาไปยังห้อง Brief ครับ ในห้องนี้ Proctor ก็จะแนะนำและบอกกฎ ข้อกำหนดต่างๆให้ ว่า คุณมีเวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น LAB Troubleshooting 2 ชั่วโมง และ LAB Config 6 ชั่วโมง และจะมีเวลาพักทานข้าว 1 ชั่วโมง และก็บอกเราว่าหลังจากทำ LAB ให้ Save บ่อยๆ เพราะถ้าคุณไม่ Save แล้วเกิดปัญหาขึ้น เช่น อุปกรณ์เกิดเน่าขึ้นมาวันนั้นพอดี ก็คือจบ แล้วถ้าติดปัญหาหรือสงสัยอะไรให้ยกมือถามได้ ให้เก็บโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าตัง และทุกอย่างเข้าล็อคเกอร์ พอหลังจาก Brief เสร็จก็พาเข้าห้องสอบครับ โดยมีกฎว่าให้ออกไปเข้าห้องน้ำได้ทีละ 1 คน และตอนออกไปเข้าห้องน้ำเวลาในการสอบยังเดินต่อนะครับ
เข้ามานั่งประจำที่ มีคอมพิวเตอร์ Desktop 1 ตัว กระดาษและปากกา วางอยู่บนโต๊ะ หลังจาก Proctor Login เข้ามาให้ ก็ถึงหน้าจอ LAB มีปุ่ม Start Exam อยู่ข้างๆ ผมก็กะว่าจะทำสมาธิซักหน่อย แต่ Proctor ดันมายืนกดดันอยู่ข้างหลัง เร่งให้ Start Exam อยู่นั่นแหละ ผมหมั่นไส้เลยกดซะเลย หันมาดูอีกที รูปข้อสอบก็ขึ้นมาแล้ว พร้อมกับจับเวลาถอยหลัง 2 ชม. เจอ LAB Troubleshooting ก่อนครับ ผมก็รีบเลย มี 10 ข้อ ถ้าเทียบกับเวลา ต้องใช้เวลาแก้ปัญหา 1 ข้อ ไม่เกิน 10 นาที ผมก็ทำไปเรื่อยๆครับ จนมาติดปัญหาข้อ 5 แก้ไม่ได้ ผมดูเวลาแล้วข้อนี้ผมใช้เกิน 10 นาที แต่ยังแก้ไม่ได้ ผมเลยข้ามไปทำข้อต่อไปก่อน แล้วก็มาติดปัญหาอีกที่ข้อ 9 ก็แก้ไม่ได้เหมือนกัน ผมเลยข้ามไปทำข้อ 10 ก่อน จากนั้นพอครบทุกข้อแล้ว ผมก็กลับมาทำข้อเดิมครับ เหลือเวลาไม่มาก ตรงโจทย์มันจะบอกคะแนนมาให้ว่าแต่ละข้อมีกี่คะแนน ผมมานั่งคำนวณคะแนนดูแล้ว 80% ผมจะต้องผิดได้ 1 ข้อเท่านั้น !!! แต่ตอนนี้ ผมยังแก้ไม่ได้ 2 ข้อ ผมเลยนั่งแก้ๆๆๆๆ จนเหลือเวลา 3 นาทีสุดท้าย ผมแก้ออก 1 ข้อ เหลืออีก 1 ข้อ ผมใช้เวลาจนหมดเลยครับ แต่ก็แก้ไม่ออก ก็เลยต้องภาวนาว่าให้ข้อที่เหลือที่ผมทำได้ มันไม่ผิด ถึงจะผ่าน แต่มันยังไม่จบครับ หลังจากเวลาหมดข้อสอบก็ส่งให้อัตโนมัติครับ และก็เด้งข้อสอบ LAB Config ขึ้นมาให้ทำต่อทันที !!!!!!! (ผมโคตรปวดฉี่เลยครับ แต่ไม่อยากออกไป กลัวทำไม่ทัน จนต้องกลั้นรอทำ LAB Troubleshooting เสร็จ แล้วถึงเดินออกไปเข้าห้องน้ำ)
ผมนั่งทำใจอยู่ประมาณ 1 นาที แล้วก็กด Start Config Exam ต่อเลย จับเวลา 6 ชม. ครับ ผมไม่รอช้าเริ่มลุยทันที ระหว่างทำไปก็ Save ไปด้วยจนผ่านไป 2 ชม. เที่ยงพอดี Proctor ก็เดินเข้ามาบอกว่า "Hi, Everyone please stop configuration and save your exam. have lunch." ผมก็เลย Save ทั้งหมดอีกครั้งแล้วเดินออกไปกินข้าว มันคือ พัฟไก่ 2 ก้อนใหญ่ๆ บอกเลยครับ ณ ตอนนั้น กินอะไรไม่ลง เครียด และ กังวลมากๆ ก็พยามฝืนกินเผื่อให้สมองมีแรง Proctor บอกว่า "Relax, Relax enjoy eating" กรูไม่ได้ enjoy ด้วยเล้ยยย T-T กินเสร็จ 20 นาที รีบเข้าไปทำ LAB ต่อครับ ผมมานั่งที่โตีะแล้วลุยต่อทันที พอทำ Layer 2 ครบทั้งหมด แล้วก็ตรวจสอบว่าไม่มีผิด ผมก็เริ่มทำ Layer 3 ต่อ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผมทำ Layer 3 ครบทั้งหมด แล้วก็ตรวจสอบว่าที่ผมทำไปนั้นตรงตามโจทย์ ก็น่าจะโอเคละ ผมก็กำลังจะขึ้น Redistribution ต่อ ผมมาเอะใจอะไรบางอย่าง ก็เลยมาดูที่ Config อีกที ชิบหายยยแล้วครับ !!!! ผมใส่ AS Number ของ EIGRP ผิดหมดเลย ซวยเลยทีนี้ผมเงยหน้าดูนาฬิกา ยังมีเวลา ผมไล่แก้ EIGRP ใหม่หมดเลยครับ ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง พอทำเสร็จคราวนี้ตรวจสอบแบบละเอียดเลยกลัวพลาดอีก ผมเงยหน้าดูนาฬิกา ตอนนั้นประมาณบ่าย 3 ผมเหลือเวลาอีก 2 ชม.นิดๆ เหลือ MPLS VPN , IPv6 Routing , IP Multicast , QoS , FHRP , Private VLAN , VLAN ACL , AAA , NTP , Logging , EEM +++ ยังเหลืออีกเพียบเลยครับ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วลุยต่อทันที ระหว่างทำๆไป โจทย์บางข้อก็มีเปลี่ยนบ้าง แต่ผมซ้อมมาทุกท่าทุกวิธีก็เลยพลิกแพลงได้ จนมาถึงข้อ MPLS VPN ผมติดปัญหา ตอนซ้อมให้ Ping ไปหาปลายทางโดยใช้ Source Interface เป็น Loopback แต่เจอในข้อสอบจริงโจทย์เปลี่ยนให้ใช้ Source Interface เป็น Physical ครับ มันเปลี่ยนแค่นี้เอง แต่เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยครับ ผมเลยตัดสินใจข้ามข้อนี้ไปก่อน จนผมทำครบทั้งหมดทุกหัวข้อ เหลือเวลาอีกประมาณ 20 นาทีสุดท้าย ผมมานั่งนับคะแนนเหมือนเดิมครับ นับไปนับมาชักเสียวๆ เพราะบางข้อไม่มั่นใจ แล้วข้อ MPLS VPN ที่ข้ามไปคะแนนเยอะด้วย ผมเลยย้อนกลับมาทำข้อนั้นให้ได้ เปิดโจทย์มานั่งหลับตานึกอยู่พักใหญ่ว่าจะทำไงดี จนนึกออก จำได้ว่าพี่ที่มากับผมนี่แหละ แกเคยสอนผม ผมปิ๊งเลย !!! (มีหลอดไฟขึ้นหัว 555+) แล้วก็ลองดู ปรากฎว่ามันเวิร์คครับ ผมดีใจน้ำตาจะไหล ดูนาฬิกาเหลือ 10 นาทีสุดท้าย ผมเขียน TCL Script เพื่อ Ping ทุก IP ที่โจทย์ต้องการ ผลออกมาเจอครบทั้งหมด แล้วก็ไล่ทวน Config ทั้งหมด อีกรอบ จากนั้นก็ Save ทุกตัวแล้ว Reload อุปกรณ์ทุกตัวครับ (ในโจทย์มันมีข้อนึงที่ต้อง Reload อุปกรณ์ด้วยครับ ไม่งั้นผลมันจะได้ไม่ตรงโจทย์ ผมก็เลย Reload ทุกตัวซะเลย เพื่อให้แน่ใจว่าพอกลับขึ้นมาแล้วต้องใช้ได้) พอหลังจาก Reload เสร็จ เหลือ 3 นาที สุดท้าย ผมเช็ค Config อีกรอบ จากนั้นใช้ TCL Script ที่ผมเขียนไว้ตอนแรก Ping ทุก IP อีกครั้ง ผลออกมาเจอครบทั้งหมด ผมดีใจละ ผมเลยกด End Exam ไปเลยครับ แล้วก้เดินออกจากห้องสอบไปเจอ Proctor ด้านหน้า มีเวลานิดหน่อยได้พอคุยกับคนที่มาสอบด้วยกันว่าเจอข้อสอบแบบไหน ทำได้ไหม อะไรประมาณนั้น จน Proctor บอกว่า "ผลจะแจ้งหลังจากนี้ประมาณ 3 ชม." แล้วก็ทิ้งท้ายด้วยคำว่า "Good Luck, See you again next time" อ้าว แช่งกรูป่าวว้า กรูไม่มาเจอมึงแล้ว กรูขอผ่านรอบเดียวได้ไหม... แต่ถ้าจะเจอจริงๆคงจะเป็น CCIE ใบที่ 2 ก้ได้ 55555+
แล้วผมก็เดินออกจากตึกไปอย่างกังวลใจ ในหัวมันโล่งเพราะมันสอบเสร็จไปละ แต่ยังกังวลว่าจะผ่านไหมนี่สิ เหม่อๆ ลอยๆ เดินคนเดียว นั่งรถไฟกลับโรงแรม เปิดประตูห้องเข้ามาถึง พี่ผมก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ก็เลยบอกว่าหาข้าวกินก่อนละกันพี่ เดี๋ยวแชร์ให้ฟัง
รอฟังผล 3 ชม. >>>
ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า ผมจะต้องซื้อเน็ตเพื่อใช้เช็คผลสอบนี่แหละ ละก็วันที่ผมไปสอบพี่ผมจะได้ใช้เน็ตหาข้อมูลได้ เพราะเค้าจะสอบต่อจากผมวันนึง แต่ทีนี้ไอโรงแรมนี้เน็ตมันแพงมากกกกกกก ผมก็เลยต้องซื้อตอน 2 ทุ่ม วันนี้ เพื่อให้มันใช้ได้ถึง 2 ทุ่มวันพรุ่งนี้ เพราะว่า วันนี้ 2 ทุ่ม ผมจะเช็คผลสอบผม ส่วนพรุ่งนี้ 2 ทุ่ม พี่ผมจะได้เช็คผลสอบนั่นเอง !!
หลังจากหาข้าวกินเสร็จก็ขึ้นมาแชร์ มาคุยกับพี่ ว่าผมเจออะไรบ้าง เอาง่ายๆมาปรับทุกก่อน 555+ เพราะยังไม่รู้ผล จนกระทั้งนั่งรอประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ก็ Login ใช้เน็ต แล้วก็เปิดเมลล์มาดู เฮ้ยยย !!! มีเมลล์มาแล้ว ด้วยความตื่นเต้น ผมรีบเปิดเมลล์ CCIE Lab Score Report มันบอกว่าให้ผมไปดูจากเว็บได้เลย คราวนี้แหละ ผมคลิ๊กลิงค์เข้าไปไม่กล้า Login มือสั่นไปหมด พี่ผมก็บอกว่า "เมิง Login เลย รออะไร เมิงจะรู้ช้าหรือเร็วก็ต้องรู้อยู่ดี ว่าผ่านหรือไม่ผ่าน" ผมก็ใส่ User / Pass ผมเข้าไปแต่ยังไม่กด Login มือสั่นรัวๆ ใจเต้นแรงมากก อยู่ดีๆ พี่ผมก็กดให้ซะงั้น ปั๊ดโธ่ ซวยแล้ว หน้าจอหมุนๆๆๆๆๆๆ อยู่นาน แล้วก็โผล่ขึ้นมา ผมไม่เห็นว่า Passed ไหม แต่ผมเหลือบไปเห็นว่า CCIE Number ผม เยดเขร้ กรูมี Number แล้ว แสดงว่ากรูผ่านนนนนนนนน ผ่านนแล้วโว้ยยยย เหลือบมาดูผลให้แน่ใจอีกทีว่าผ่านเห็นคำว่า "Passed"
ผมกระโดดเลย วิ่งรอบห้อง หาหมอนอุดปากแล้วตะโกนดังๆ ดีใจมาก ตอนนี้มันโล่งหมดแล้ว น้ำตาไหลเลยครับ เสียงมันก้องอยู่ในหัวเลย ผ่านแล้ว ผ่านแล้ว ผมทำได้ รอบเดียว ไม้เดียว ผมทำมันได้จริงๆ จากนั้นผมรีบมา Brief ให้พี่ผมเลยครับ ว่าผมทำอะไรไปบ้าง ผมเจออะไรตรงไหน แล้วก็ช่วยพี่ผมติวต่อจนถึงเที่ยงคืน
รอฟังผลสอบของพี่ผมบ้าง >>>
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นพี่ผมไปสอบ ผมก็ย้ำพี่ผมว่า "ใจเย็นๆนะพี่ ข้อไหนไม่ได้ ข้ามไปก่อน โชคดีครับ" วันนั้นผมก็นอนกว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง ลงไปหาไรกิน บ่ายขึ้นมาพัก ดูทีวี ช่วงเย็นผมก็ออกไปเดินเล่นครับ
จนประมาณ 5 โมง ผมเลยแวะไปหาพี่ผมที่ตึกสอบกะว่าจะเจอ แต่พี่ผมดันออกมาก่อนซะละ ก็เลยนั่งรถไฟกลับ แล้วก็เข้ามาที่โรงแรมครับ ผมเปิดประตูห้องมา พี่ผมทัก "ไอนัท เมิงไปไหนมาวะ กูหาเมิงมั่วห้องเลย" ฮ่าๆๆๆ ผมบอกว่า ผมไปเดินเล่นมา แล้วก็ถามว่าเป็นไงบ้าง พี่ผมก็บอกว่า LAB Config โจทย์เดียวกับผมเลย ก็เลยค่อนข้างมั่นใจ ส่วน LAB Troubleshooting ได้คนละโจทย์กัน พี่ผมบอกว่า LAB Troubleshooting ทำไม่ได้ 1 ข้อ เหมือนกัน ก็มาลุ้นกันล่ะว่าข้ออื่นต้องไม่ผิด ก็เลยไปหาข้าวกินครับ เพื่อรอผลสอบ ขึ้นมาประมาณ 2 ทุ่ม พอดี พี่ผมก็เช็คเมลล์ครับ เมลล์ยังไม่มา !!!! สบายละ ทำไมยังไม่มา เวลาเน็ตที่ซื้อมาใกล้จะหมดแล้วด้วย (หมดประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง) ก็นั่ง refresh ไปเรื่อย จน 20.15 เมลล์เด้งมาครับ ก็เลยวิ่งมาดู พี่ผม Login เข้าไป ผมเห็น CCIE Number เฮ้ยยยย +++ เฮ้ยยย พี่ ผ่านแล้วว พี่ผมนี่น้ำตาไหลเลย เพราะเค้าสอบมารอบนี้ รอบที่ 4 ครับ เค้าเหนื่อยกับมันมา 2 ปี เต็ม แต่วันนี้เค้าทำได้แล้ว
ผมดีใจด้วยเลย มา 2 คน ผ่านพร้อมกัน ถ้าผ่านคนเดียว อีกคนนึงคงเศร้าน่าดูครับ ผมเลยฉลองลงไปหาเบียร์มานั่งจิบกันซักหน่อย อิอิ แล้วก็นอนครับ ตื่นเช้า Check Out กลับ ขึ้นเครื่องบินตอน 10 โมงเช้า และก็ถึงกรุงเทพประมาณ 1 ทุ่ม (เวลาไทย) ครับ กลับบ้านพักผ่อน อาทิตย์หน้า กลับมาทำงานต่อ
จบซะแล้ว >>>
เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับประสบการณ์การสอบ CCIE ของผม ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจ และผมคิดว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจได้ดี สำหรับคนที่อยากจะสอบนะครับ ถ้าคุณคิดว่าคุณท้อ คุณหมดกำลังใจ ผมอยากให้เอาบทความนี้เป็นแรงประตุ้นก็ได้ครับ กว่าผมจะทำมันสำเร็จได้ ผมต้องใช้เวลาฝึกซ้อมและอยู่กับมันอย่างหนัก ดูตัวอย่างจากพี่ผมได้ครับ นี่คือผลของความไม่ยอมแพ้ครับ ท้อได้แต่ห้ามถอย ล้มได้แต่ต้องลุก ผมว่ามันใช้ได้กับทุกเรื่องครับ ไม่ใช่เฉพาะการสอบ CCIE อย่างที่เค้าบอกกันว่า "ความสำเร็จ มันไม่มีทางลัดครับ"
การสอบ CCIE ครั้งแรกสำหรับผม มันทำให้ผมได้ประสบการณ์อะไรดีๆมากมาย รวมถึงการจัดการตัวเอง การจัดระเบียบเวลา การมีวินัย และอะไรหลายๆอย่างเลยครับ พอผมได้สอบ CCIE ผมเลยคิดว่า CCIE เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายๆอย่างในโลกของ Network ที่เรายังไม่รู้ การสอบ CCIE ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรู้ไปซะทุกอย่าง มันเป็นเพียงข้อสอบที่ใช้วัดความรู้เฉพาะด้านและวัดความมุ่งมั่นสำหรับคนที่ทำในสายงาน Network แบบพวกเราเท่านั้นเองครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ยังคงต้องศึกษาและหาความรู้ไปเรื่อยๆเพื่อให้ก้าวทันโลก IT ในปัจจุบัน แล้วเจอกันใหม่ในตอนที่ 3 สำหรับ วิธีการเตรียมตัวสอบ CCIE ครับ ขอบคุณครับ
By ReFeeL
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน ตอนที่ 1 สามารถเข้าไปอ่านตอนที 1 ได้จากลิงค์นี้นะครับ เพื่อความต่อเนื่อง
>> ประสบการณ์การสอบ CCIE ตอนที่ 1 <<
เดือนสุดท้ายก่อนสอบ >>>
หลังจากที่ผมได้ฝึกทำ LAB มาแล้ว ผมเหลือเวลา 1 เดือน ผมใช้เวลา 1 เดือนนี้ ทบทวน LAB ทั้งหมดครับ เนื่องจากเริ่มมีความคล่องมือทำให้ผมใช้เวลาทบทวนน้อยลงครับ จากทำตอนแรกใช้เวลา 5-7 วัน เหลือเพียง 2-3 วัน ไอช่วง 1 เดือนที่เหลือนี่แหละครับมันสุดยอดมากจริงๆ หัวหน้าผมให้ผมหยุด 1 เดือน เพื่อสำหรับเตรียมตัวสอบเต็มๆ ผมใช้เวลาที่ผมได้หยุด 1 เดือน ได้คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง 3 !!! ถุ้ย ไม่ใช่ นั่นมันสโลแกนช่อง 3 แหม่!!!
ได้หยุด 1 เดือนเต็ม ก็สบายหน่อยละ อิอิ 2 วันแรก ผมนอนอย่างเดียวเลยครับ 555+ เหนื่อยจากงาน พอได้หยุดทั้งทีก็ นอนก่อนเลย ตื่นมากินข้าว แล้วก็เล่นเกมส์ DotA จากนั้นก็ต่อด้วยเล่นเกมส์ PES เอาง่ายๆ นอนกับเล่นเกมส์รัวๆ เลยครับ ฮ่าๆๆๆ ผ่านไป 2 วัน ได้ผ่อนคลายไปแล้ว ก็กลับมาลุย LAB ต่อครับ
ผมใช้เวลาทุกนาทีไปอย่างคุ้มค่าจริงๆครับ โดยผมทำตารางเวลาใส่ Excel ครับ เพื่อจะได้เอาไว้ดูว่า วันไหนผมจะต้องทำแลปชุดไหนบ้าง และใน 1 วัน นั้นผมแบ่งเวลาแบบนี้ครับ
8.00 - 12.00 ซ้อม LAB
12.00 - 13.00 พักผ่อน
13.00 - 17.00 ซ้อม LAB
17.00 - 19.00 พักผ่อน
19.00 - 23.00 ซ้อม LAB
เอาง่ายๆครับ ซ้อม LAB ทั้งวันกันเลยทีเดียวครับ จนแฟนผมเริ่มบ่นๆละครับ ว่า ไม่มีเวลาให้เลย 555 ในสัปดาห์นึงผมเลยต้องแบ่งเวลาออกไป 1 วัน ให้แฟนครับ T-T (ระวังนะครับ ใครคิดจะสอบ CCIE แล้วไม่ตกลงกับแฟนดีๆนี่ เดี๋ยวจะมีปัญหากันได้นะครับ)
ตารางซ้อม LAB |
ผมเริ่มลุย LAB ต่อทันทีครับ ช่วงนั้นคือเดือนเมษายน 2014 ครับ ผมทบทวนมาเรื่อยๆครับ จนกระทั่งมาถึงวันหยุดยาวในดือนเมษายนครับ คงเดากันไม่ยากใช่ไหมครับ !!! ใช่ครับ มันคือ สงกรานต์.... ช่วงสงกรานต์ ผมก็กลับบ้านครับ กะว่า กลับไปบ้านชิลๆ นั่งทบทวน LAB ไปด้วย แต่ !! มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมกลับบ้านไป ญาติๆ มากัน มีกิจกรรมกัน ไปนู่นไปนี่ ทำให้ผมไม่ได้ทำ LAB เลย แม้แต่นิดเดียว แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสนะ ผมคิดว่าแค่ไม่กี่วัน คงไม่ลืมหรอก พอหมดสงกรานต์ผมกลับมาที่หอ เริ่มทวน LAB ต่อ ซวยยแล้ว ลืมมมม ครับ !!!! ลืมจริงๆ จำไม่ได้ว่าจะต้อง Config ยังไง ลืม Command ครับ T-T สบายยยแล้วกรู มานั่งรื้อฟิ้นใหม่ครับ แต่โชคดีที่ยังใช้เวลารื้อฟื้นไม่นาน ผมใช้เวลาอยู่ 1 สัปดาห์ ความทรงจำผมถึงกลับมาเหมือนเดิม ผมคิดในใจเลยว่า คราวนี้ ผมจะต้องทวนทุกวัน และห้ามทิ้งไปโดยไม่ทวนเกิน 1 วันครับ ไม่งั้นลืมมม แน่นอน และช่วงเดือนสุดท้ายนี่แหละ ผมซื้ออาหารเสริมแบบจัดเต็ม ทั้ง แบรนด์เม็ด แบรนด์ขวด บำรุงซะหน่อย
บำรุงร่างกายกับสมองซักหน่อย |
กำหนดเวลาตัวเอง >>>
การทวน LAB ซ้ำๆบ่อยๆ ทำให้ผมคล่องมือขึ้นเรื่อยๆ และใช้เวลาทำ LAB น้อยลงครับ ผมตั้งเป้าไว้ว่า LAB Config จะต้องใช้เวลาทำให้เสร็จไม่เกิน 5 ชม. หรือพูดง่ายๆก็คือ LAB Config ต้องใช้เวลาไม่เกิน 5 ชม. และ LAB Troubleshooting ต้องใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. ครับ ทำไมผมถึงตั้งเป้าไว้แบบนั้น เหตุผลก็เพราะว่า >>> ตอนสอบจริง จะมีเวลาให้ทำข้อสอบทั้งหมด 8 ชม. โดยแบ่งเป็น LAB Config 6 ชม. และ LAB Troubleshooting 2 ชม. <<< นี่แหละครับ ผมเลยต้องจำกัดเวลาตัวเองให้ทำได้ไม่เกินนี้นั่นเอง ผมใช้เวลาที่เหลือฝึกๆๆๆๆ ทวนๆๆๆๆ จนผมสามารถทำเวลาได้ตามที่ผมกำหนดครับ สุดยอด ผมโคตรดีใจเลยครับ
จับเวลาทำ LAB Config ภายใน 6 ชม. |
และผมก็ยังซ้อมๆๆๆ ต่อไปเรื่อยๆครับ ทำให้เวลาให้คงที่ที่สุด ไอช่วงนี้แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ วันๆอยู่แต่หน้าคอม ทำแต่ LAB อย่างเดียว ตอนกลางคืนนอนนี่ถึงกับฝันออกมาเป็น Command เลยทีเดียว แต่ก็ยังมีวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ได้ออกไปนัดเจอกับทีมงานกลุ่มเพื่อแชร์ข้อมูลกันบ้าง >.< ผมซ้อมๆๆ จนกระทั่งผมจำ Command ได้ทั้งหมดครับ
ตารางเวลาที่ใช้ในการทำฝึก LAB |
ต้องแม่น Command >>>
ในตอนนี้ผมสามารถอ่านโจทย์แล้วพิมพ์ Command ลงใน Notepad ได้เลย ผมจะเรียกว่าทำ LAB แห้ง คือไม่พิมพ์ Command ลงใน LAB จริง แต่อ่านโจทย์แล้วพิมพ์ Command ลงใน Notepad ได้เลย เวลาผมออกไปข้างนอก บางทีผมก็ไปนั่งร้านกาแฟ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ผมก็โยนโจทย์ใส่ iPad ไว้ แล้วเขียน Config ใส่กระดาษ เป็นการทำ LAB แห้งอีกแบบนึง บางคนอาจมีคำถามว่า ทำไมผมไม่ทำ LAB แห้งตั้งแต่แรก คำตอบคือ !! การที่เราทำ LAB จริง หรือ พิมพ์ลงใน Simulator หรือ GNS3 ทำให้เราเห็น Output ครับ เห็นผลที่เกิดจาก Command ที่เราพิมพ์เข้าไป ว่ามัน Error ตรงไหน ใส่ Command นี้แล้วเกิดผลอย่างไร ถ้าไม่ใส่แล้วจะเป็นแบบไหน เวลาเกิดปัญหาแล้ว Debug ดูจะเป็นแบบไหน นั่นล่ะครับคือคำตอบ !!! ผมใช้เวลาในการทบทวน LAB ประมาณ 1 เดือน โดยเริ่มนับจากทำครั้งแรกจนถึงครั้งสุดท้าย ผมทำ LAB
ต้องแม่น Command สามารถอ่านโจทย์แล้วพิมพ์ Command ใส่ Notetpad ได้ |
อุปสรรคมาอีกครั้ง >>>
มันกำลังจะเป็นไปได้สวยอยู่แล้วเชียว แต่ Cisco ดันเปลี่ยนข้อสอบอีกแล้ว ผมอุทานในใจ "ชิบหายยยแล้ว" ผมเลยเข้าไปดูในบอร์ดกับคุยกับกลุ่มของผม ปรากฎว่าข้อสอบเปลี่ยนจริงๆ มีคนเจอมาแล้ว ผมเครียดเลยเอาไงดี พอตั้งสติได้ ผมเหลือเวลาไม่ถึง 10 วันก่อนบินไปสอบ ก็เลยได้แต่ภาวนาครับ ขอให้ผมไปแล้วยังไม่เจอที่มันเปลี่ยนแล้วกัน
พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ >>>
ผมหาเวลาไปไหว้พระครับ ผมไปไหว้พระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้ว ซึ่งหลวงพ่อแก้วเป็นที่เคารพนับถือของครอบครัวผมมาตั้งแต่ผมเกิด ผมจะไปกราบท่านและนำไข่ต้มไปไหว้ท่านทุกปีในวันเกิด ผมไปขอพรให้ผมสอบผ่าน และ เดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ โดยถ้าผมสอบผ่านผมจะนำไข่ต้มมาถวาย 99 ฟอง อย่างน้อยก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาได้บ้าง
ฝึกจากของจริง >>>
หลังจากที่ฝึกจาก Simulator หรือ GNS3 มานาน ผมก็เลยคิดว่า เราจะต้องฝึกกับของจริงบ้างเพื่อให้เห็นภาพและชินมือ ผมเลยไปเช่า Rack จริงของต่างประเทศ มาฝึกทำครับ ก็เช่ามาทำอยู่ 1 อาทิตย์ ให้คล่องมือนิดนึง ก็จะเจอปัญหาบางอย่าง เช่น บาง Command พอ Config ลงของจริงแล้วไม่เข้า จะต้องใส่อีก Command นึง อะไรทำนองนี้ ทำให้เรารู้ก่อนที่จะไปเจอตอนสอบจริง
ถึงเวลาบิน >>>
Boeing 747 |
เวลาประมาณ 18.00น. ผมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมออกเดินทาง เครื่องออกเวลาประมาณ 22.00น. ครับ ผมไปกับพี่ที่ออฟฟิศผม หลังจากเจอกันแล้วก็ไปโหลดประเป๋า แล้วก็ไปหาข้าวกินกัน ห จากนั้นพอใกล้ถึงเวลาก็เดินไปที่ ตม. แล้วก็ไปรอที่ Gate ครับ นั่งคุยๆกับพี่เรื่องข้อสอบไปเรื่อยๆ จนพนักงานประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่องละ ก็ขึ้นไปนั่งรอบนเครื่อง ถึงเวลา ประมาณ 22.00น. เครื่องออกผมกับพี่ก็ใช้เวลาคุยกันเรื่องข้อสอบ เพราะแถวที่ผมนั่งมีผมกับพี่แค่ 2 คน ผมเอาโจทย์ข้อสอบโยนใส่ไว้บน Dropbox แล้วเปิดผ่าน iPad จากนั้นผมก็ใช้ สมุดขึ้นมาเขียน Config ครับ ทำ LAB แห้งนั่นเอง ก็ทวนคร่าวๆทุกชุดเลย ใช้เวลาราวๆ 2 ชม. ถึงเวลา เที่ยงคืน ผมก็นอนพักครับ โชคดีหน่อยที่บนเครื่องรอบขาไปไม่มีเด็ก ก็เลยเงียบหน่อย ถึงจะหลับๆตื่นๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้นอน
เหยียบแดนจิงโจ้ครั้งแรก >>>
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเครื่องบินจะลง ผมก็ตื่นมากินอาหารเช้าที่เครื่องบินจัดไว้ให้ แล้วเครื่องก็ลงจอดที่สนามบินที่ออสเตรเลีย เวลาที่ออสเตรเลียประมาณ 7.00น. ครับ เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ผมลงมาจากเครื่องผ่าน ตม. ออสเตรเลีย ก็กลัวๆเหมือนกันครับ เพราะกฎระเบียบเค้าเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ผ่าน ตม. ออกมารอรับกระเป๋าครับ แล้วก็หาทางไปครับทีนี้ 555+ ผมเดินไปหารถไฟเข้าเมืองก่อนเลย ผมจะไปพักที่แถวๆ Chatswood ครับ ซึ่งไกลจากสนามบินเหมือนกัน ก็เลยหาเส้นทางว่าจะต้องขึ้นรถไฟสายไหนดี สุดท้ายมองหน้ากับพี่ อ่ะ ไปสายนี้แหละวะ แล้วก็นั่งไปครับ รถไฟบ้านเค้าดูดีมาก สองชั้น วิ่งทั่วเกาะเลย
ซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ |
รถไฟที่ Australia 2 ชั้น |
หน้าตาตั๋วรถไฟ |
สรุปผมซื้อตั๋วผิด 555+ ต้องลงสถานีนึงก่อน แล้วไปซื้อใหม่ ผมตั้งใจว่าจะไปดูสถานที่สอบก่อนแล้วค่อยแวะเข้าโรงแรม ตอนเช้าตอนไปสอบจะได้ไปถูก จนสุดท้ายผมก็มาถึงสถานี St Leonards
สถานีรถไฟ St Leonards |
บรรยากาศระหว่างเดินหาตึกสอบ Cisco |
แล้วก็เดินหาตึกสอบครับ วนไปวนมาอยู่พักนึงแล้วก็หาเจอครับ เห็นป้าย Cisco ละ เลยเดินเข้าไปดูว่าอยู่ชั้นไหน ยังไง
พอรู้ที่รู้ทางแล้ว ผมก็เดินทางเข้าโรงแรมครับ ห่างจากสถานีของตึกสอบไม่กี่สถานี ผมกลับเข้าโรงแรมไปลงสถานี Chatswood แล้วก็เดินหาโรงแรมอยู่ซักพัก ผมก็เข้า Check-in ที่โรงแรม THE SEBEL ครับ
บรรยากาศแถวโรงแรมที่พัก |
โรงแรม THE SEBEL |
ห้องกว้างดีครับ พอถึงโรงแรมประมาณ 12.00น. ผมกับพี่ก็ทำภารกิจที่สำคัญก่อนเลยครับ นั่นก็คือ !!! นอน... 555+ ต่างคนต่างนอนครับ จนช่วงบ่าย 2 ก็ลงไปเดินหาของกินครับ แถว Chatswood หาไรกินยากมากครับ เป็นโซนเมืองเก่า มีแต่อาหารจีน หายากมากๆ จนเดินไปเจอร้านอาหารญี่ปุ่น เอาวะ !! กินง่ายสุดละ เลยซัดไปซะอิ่มเลย จากนั้นซื้อน้ำ ซื้อขนม กลับเข้าไปที่ห้อง เตรียมตัวทบทวน LAB ครับ ซึ่งผมจะสอบก่อนครับ ก็คือวันพรุ่งนี้ ส่วนพี่ผมสอบวันมะรืน ผมเลยเครียดก่อน เพราะสอบก่อน เครียดก่อน 555+ ก็นั่งทบทวนจนถึงช่วงเย็นประมาณ 1 ทุ่ม ผมกับพี่ก็เลยเดินลงไปหาข้าวเย็นกินครับ แล้วก็ซื้อแซนวิชขึ้นมาไว้กินช่วงเช้าครับ ผมซ้อมต่อจนถึงเที่ยงคืน จนพี่ไล่ผมไปนอน ฮ่าๆๆ ให้รีบนอนเดี๋ยวสมองล้า
ถึงเวลาขึ้นเขียง >>>
ตอนเช้าผมตื่นมาตอน 6 โมงเช้าครับ ใช้เวลา 1 ชม. ทบทวนทั้งหมดอีกครั้ง พอเวลา 7 โมง ผมก้ไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ออกเดินทางครับ พี่ผมไปด้วย เค้าบอกว่าเดี๋ยวไปส่ง 555+ ใจดีมาก ไปถึงตึก Cisco ประมาณ 7.45 ครับ แต่ออฟฟิศ Cisco ยังไม่เปิด !!!! ผมเลยต้องเดินมานั่งรอที่สวนด้านล่างครับ จนถึงประมาณ 8 โมงนิดๆ ก็เดินขึ้นไปยืนรอด้านบนครับ มีหลายคนเลยที่มาสอบวันนั้นครับ แล้วพนักงานก็เดินมาเปิดออฟฟิศ ถามว่า "Take the CCIE LAB Exam ?" ก็ตอบไปกันว่า "Yes" จากนั้นพนักงาน Cisco ก็บอกให้มานั่งรอ Proctor ด้านในครับ Proctor แม่งมาสายครับ มาถึงตอน 8.30น. แล้วก็เอาใบเซ็นชื่อมาให้เซ็น แล้วก็ถามเราว่าสอบ Track ไหน ผมบอกว่า "Routing and Switching" พอเซ็นชื่อหมดทุกคนแล้ว ก็พาไปยังห้อง Brief ครับ ในห้องนี้ Proctor ก็จะแนะนำและบอกกฎ ข้อกำหนดต่างๆให้ ว่า คุณมีเวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น LAB Troubleshooting 2 ชั่วโมง และ LAB Config 6 ชั่วโมง และจะมีเวลาพักทานข้าว 1 ชั่วโมง และก็บอกเราว่าหลังจากทำ LAB ให้ Save บ่อยๆ เพราะถ้าคุณไม่ Save แล้วเกิดปัญหาขึ้น เช่น อุปกรณ์เกิดเน่าขึ้นมาวันนั้นพอดี ก็คือจบ แล้วถ้าติดปัญหาหรือสงสัยอะไรให้ยกมือถามได้ ให้เก็บโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าตัง และทุกอย่างเข้าล็อคเกอร์ พอหลังจาก Brief เสร็จก็พาเข้าห้องสอบครับ โดยมีกฎว่าให้ออกไปเข้าห้องน้ำได้ทีละ 1 คน และตอนออกไปเข้าห้องน้ำเวลาในการสอบยังเดินต่อนะครับ
เข้ามานั่งประจำที่ มีคอมพิวเตอร์ Desktop 1 ตัว กระดาษและปากกา วางอยู่บนโต๊ะ หลังจาก Proctor Login เข้ามาให้ ก็ถึงหน้าจอ LAB มีปุ่ม Start Exam อยู่ข้างๆ ผมก็กะว่าจะทำสมาธิซักหน่อย แต่ Proctor ดันมายืนกดดันอยู่ข้างหลัง เร่งให้ Start Exam อยู่นั่นแหละ ผมหมั่นไส้เลยกดซะเลย หันมาดูอีกที รูปข้อสอบก็ขึ้นมาแล้ว พร้อมกับจับเวลาถอยหลัง 2 ชม. เจอ LAB Troubleshooting ก่อนครับ ผมก็รีบเลย มี 10 ข้อ ถ้าเทียบกับเวลา ต้องใช้เวลาแก้ปัญหา 1 ข้อ ไม่เกิน 10 นาที ผมก็ทำไปเรื่อยๆครับ จนมาติดปัญหาข้อ 5 แก้ไม่ได้ ผมดูเวลาแล้วข้อนี้ผมใช้เกิน 10 นาที แต่ยังแก้ไม่ได้ ผมเลยข้ามไปทำข้อต่อไปก่อน แล้วก็มาติดปัญหาอีกที่ข้อ 9 ก็แก้ไม่ได้เหมือนกัน ผมเลยข้ามไปทำข้อ 10 ก่อน จากนั้นพอครบทุกข้อแล้ว ผมก็กลับมาทำข้อเดิมครับ เหลือเวลาไม่มาก ตรงโจทย์มันจะบอกคะแนนมาให้ว่าแต่ละข้อมีกี่คะแนน ผมมานั่งคำนวณคะแนนดูแล้ว 80% ผมจะต้องผิดได้ 1 ข้อเท่านั้น !!! แต่ตอนนี้ ผมยังแก้ไม่ได้ 2 ข้อ ผมเลยนั่งแก้ๆๆๆๆ จนเหลือเวลา 3 นาทีสุดท้าย ผมแก้ออก 1 ข้อ เหลืออีก 1 ข้อ ผมใช้เวลาจนหมดเลยครับ แต่ก็แก้ไม่ออก ก็เลยต้องภาวนาว่าให้ข้อที่เหลือที่ผมทำได้ มันไม่ผิด ถึงจะผ่าน แต่มันยังไม่จบครับ หลังจากเวลาหมดข้อสอบก็ส่งให้อัตโนมัติครับ และก็เด้งข้อสอบ LAB Config ขึ้นมาให้ทำต่อทันที !!!!!!! (ผมโคตรปวดฉี่เลยครับ แต่ไม่อยากออกไป กลัวทำไม่ทัน จนต้องกลั้นรอทำ LAB Troubleshooting เสร็จ แล้วถึงเดินออกไปเข้าห้องน้ำ)
ผมนั่งทำใจอยู่ประมาณ 1 นาที แล้วก็กด Start Config Exam ต่อเลย จับเวลา 6 ชม. ครับ ผมไม่รอช้าเริ่มลุยทันที ระหว่างทำไปก็ Save ไปด้วยจนผ่านไป 2 ชม. เที่ยงพอดี Proctor ก็เดินเข้ามาบอกว่า "Hi, Everyone please stop configuration and save your exam. have lunch." ผมก็เลย Save ทั้งหมดอีกครั้งแล้วเดินออกไปกินข้าว มันคือ พัฟไก่ 2 ก้อนใหญ่ๆ บอกเลยครับ ณ ตอนนั้น กินอะไรไม่ลง เครียด และ กังวลมากๆ ก็พยามฝืนกินเผื่อให้สมองมีแรง Proctor บอกว่า "Relax, Relax enjoy eating" กรูไม่ได้ enjoy ด้วยเล้ยยย T-T กินเสร็จ 20 นาที รีบเข้าไปทำ LAB ต่อครับ ผมมานั่งที่โตีะแล้วลุยต่อทันที พอทำ Layer 2 ครบทั้งหมด แล้วก็ตรวจสอบว่าไม่มีผิด ผมก็เริ่มทำ Layer 3 ต่อ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผมทำ Layer 3 ครบทั้งหมด แล้วก็ตรวจสอบว่าที่ผมทำไปนั้นตรงตามโจทย์ ก็น่าจะโอเคละ ผมก็กำลังจะขึ้น Redistribution ต่อ ผมมาเอะใจอะไรบางอย่าง ก็เลยมาดูที่ Config อีกที ชิบหายยยแล้วครับ !!!! ผมใส่ AS Number ของ EIGRP ผิดหมดเลย ซวยเลยทีนี้ผมเงยหน้าดูนาฬิกา ยังมีเวลา ผมไล่แก้ EIGRP ใหม่หมดเลยครับ ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง พอทำเสร็จคราวนี้ตรวจสอบแบบละเอียดเลยกลัวพลาดอีก ผมเงยหน้าดูนาฬิกา ตอนนั้นประมาณบ่าย 3 ผมเหลือเวลาอีก 2 ชม.นิดๆ เหลือ MPLS VPN , IPv6 Routing , IP Multicast , QoS , FHRP , Private VLAN , VLAN ACL , AAA , NTP , Logging , EEM +++ ยังเหลืออีกเพียบเลยครับ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วลุยต่อทันที ระหว่างทำๆไป โจทย์บางข้อก็มีเปลี่ยนบ้าง แต่ผมซ้อมมาทุกท่าทุกวิธีก็เลยพลิกแพลงได้ จนมาถึงข้อ MPLS VPN ผมติดปัญหา ตอนซ้อมให้ Ping ไปหาปลายทางโดยใช้ Source Interface เป็น Loopback แต่เจอในข้อสอบจริงโจทย์เปลี่ยนให้ใช้ Source Interface เป็น Physical ครับ มันเปลี่ยนแค่นี้เอง แต่เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยครับ ผมเลยตัดสินใจข้ามข้อนี้ไปก่อน จนผมทำครบทั้งหมดทุกหัวข้อ เหลือเวลาอีกประมาณ 20 นาทีสุดท้าย ผมมานั่งนับคะแนนเหมือนเดิมครับ นับไปนับมาชักเสียวๆ เพราะบางข้อไม่มั่นใจ แล้วข้อ MPLS VPN ที่ข้ามไปคะแนนเยอะด้วย ผมเลยย้อนกลับมาทำข้อนั้นให้ได้ เปิดโจทย์มานั่งหลับตานึกอยู่พักใหญ่ว่าจะทำไงดี จนนึกออก จำได้ว่าพี่ที่มากับผมนี่แหละ แกเคยสอนผม ผมปิ๊งเลย !!! (มีหลอดไฟขึ้นหัว 555+) แล้วก็ลองดู ปรากฎว่ามันเวิร์คครับ ผมดีใจน้ำตาจะไหล ดูนาฬิกาเหลือ 10 นาทีสุดท้าย ผมเขียน TCL Script เพื่อ Ping ทุก IP ที่โจทย์ต้องการ ผลออกมาเจอครบทั้งหมด แล้วก็ไล่ทวน Config ทั้งหมด อีกรอบ จากนั้นก็ Save ทุกตัวแล้ว Reload อุปกรณ์ทุกตัวครับ (ในโจทย์มันมีข้อนึงที่ต้อง Reload อุปกรณ์ด้วยครับ ไม่งั้นผลมันจะได้ไม่ตรงโจทย์ ผมก็เลย Reload ทุกตัวซะเลย เพื่อให้แน่ใจว่าพอกลับขึ้นมาแล้วต้องใช้ได้) พอหลังจาก Reload เสร็จ เหลือ 3 นาที สุดท้าย ผมเช็ค Config อีกรอบ จากนั้นใช้ TCL Script ที่ผมเขียนไว้ตอนแรก Ping ทุก IP อีกครั้ง ผลออกมาเจอครบทั้งหมด ผมดีใจละ ผมเลยกด End Exam ไปเลยครับ แล้วก้เดินออกจากห้องสอบไปเจอ Proctor ด้านหน้า มีเวลานิดหน่อยได้พอคุยกับคนที่มาสอบด้วยกันว่าเจอข้อสอบแบบไหน ทำได้ไหม อะไรประมาณนั้น จน Proctor บอกว่า "ผลจะแจ้งหลังจากนี้ประมาณ 3 ชม." แล้วก็ทิ้งท้ายด้วยคำว่า "Good Luck, See you again next time" อ้าว แช่งกรูป่าวว้า กรูไม่มาเจอมึงแล้ว กรูขอผ่านรอบเดียวได้ไหม... แต่ถ้าจะเจอจริงๆคงจะเป็น CCIE ใบที่ 2 ก้ได้ 55555+
แล้วผมก็เดินออกจากตึกไปอย่างกังวลใจ ในหัวมันโล่งเพราะมันสอบเสร็จไปละ แต่ยังกังวลว่าจะผ่านไหมนี่สิ เหม่อๆ ลอยๆ เดินคนเดียว นั่งรถไฟกลับโรงแรม เปิดประตูห้องเข้ามาถึง พี่ผมก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ก็เลยบอกว่าหาข้าวกินก่อนละกันพี่ เดี๋ยวแชร์ให้ฟัง
รอฟังผล 3 ชม. >>>
ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า ผมจะต้องซื้อเน็ตเพื่อใช้เช็คผลสอบนี่แหละ ละก็วันที่ผมไปสอบพี่ผมจะได้ใช้เน็ตหาข้อมูลได้ เพราะเค้าจะสอบต่อจากผมวันนึง แต่ทีนี้ไอโรงแรมนี้เน็ตมันแพงมากกกกกกก ผมก็เลยต้องซื้อตอน 2 ทุ่ม วันนี้ เพื่อให้มันใช้ได้ถึง 2 ทุ่มวันพรุ่งนี้ เพราะว่า วันนี้ 2 ทุ่ม ผมจะเช็คผลสอบผม ส่วนพรุ่งนี้ 2 ทุ่ม พี่ผมจะได้เช็คผลสอบนั่นเอง !!
อินเตอร์เน็ตที่โรงแรม แพงจริงๆ |
หลังจากหาข้าวกินเสร็จก็ขึ้นมาแชร์ มาคุยกับพี่ ว่าผมเจออะไรบ้าง เอาง่ายๆมาปรับทุกก่อน 555+ เพราะยังไม่รู้ผล จนกระทั้งนั่งรอประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ก็ Login ใช้เน็ต แล้วก็เปิดเมลล์มาดู เฮ้ยยย !!! มีเมลล์มาแล้ว ด้วยความตื่นเต้น ผมรีบเปิดเมลล์ CCIE Lab Score Report มันบอกว่าให้ผมไปดูจากเว็บได้เลย คราวนี้แหละ ผมคลิ๊กลิงค์เข้าไปไม่กล้า Login มือสั่นไปหมด พี่ผมก็บอกว่า "เมิง Login เลย รออะไร เมิงจะรู้ช้าหรือเร็วก็ต้องรู้อยู่ดี ว่าผ่านหรือไม่ผ่าน" ผมก็ใส่ User / Pass ผมเข้าไปแต่ยังไม่กด Login มือสั่นรัวๆ ใจเต้นแรงมากก อยู่ดีๆ พี่ผมก็กดให้ซะงั้น ปั๊ดโธ่ ซวยแล้ว หน้าจอหมุนๆๆๆๆๆๆ อยู่นาน แล้วก็โผล่ขึ้นมา ผมไม่เห็นว่า Passed ไหม แต่ผมเหลือบไปเห็นว่า CCIE Number ผม เยดเขร้ กรูมี Number แล้ว แสดงว่ากรูผ่านนนนนนนนน ผ่านนแล้วโว้ยยยย เหลือบมาดูผลให้แน่ใจอีกทีว่าผ่านเห็นคำว่า "Passed"
รอฟังผลสอบของพี่ผมบ้าง >>>
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นพี่ผมไปสอบ ผมก็ย้ำพี่ผมว่า "ใจเย็นๆนะพี่ ข้อไหนไม่ได้ ข้ามไปก่อน โชคดีครับ" วันนั้นผมก็นอนกว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง ลงไปหาไรกิน บ่ายขึ้นมาพัก ดูทีวี ช่วงเย็นผมก็ออกไปเดินเล่นครับ
จนประมาณ 5 โมง ผมเลยแวะไปหาพี่ผมที่ตึกสอบกะว่าจะเจอ แต่พี่ผมดันออกมาก่อนซะละ ก็เลยนั่งรถไฟกลับ แล้วก็เข้ามาที่โรงแรมครับ ผมเปิดประตูห้องมา พี่ผมทัก "ไอนัท เมิงไปไหนมาวะ กูหาเมิงมั่วห้องเลย" ฮ่าๆๆๆ ผมบอกว่า ผมไปเดินเล่นมา แล้วก็ถามว่าเป็นไงบ้าง พี่ผมก็บอกว่า LAB Config โจทย์เดียวกับผมเลย ก็เลยค่อนข้างมั่นใจ ส่วน LAB Troubleshooting ได้คนละโจทย์กัน พี่ผมบอกว่า LAB Troubleshooting ทำไม่ได้ 1 ข้อ เหมือนกัน ก็มาลุ้นกันล่ะว่าข้ออื่นต้องไม่ผิด ก็เลยไปหาข้าวกินครับ เพื่อรอผลสอบ ขึ้นมาประมาณ 2 ทุ่ม พอดี พี่ผมก็เช็คเมลล์ครับ เมลล์ยังไม่มา !!!! สบายละ ทำไมยังไม่มา เวลาเน็ตที่ซื้อมาใกล้จะหมดแล้วด้วย (หมดประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง) ก็นั่ง refresh ไปเรื่อย จน 20.15 เมลล์เด้งมาครับ ก็เลยวิ่งมาดู พี่ผม Login เข้าไป ผมเห็น CCIE Number เฮ้ยยยย +++ เฮ้ยยย พี่ ผ่านแล้วว พี่ผมนี่น้ำตาไหลเลย เพราะเค้าสอบมารอบนี้ รอบที่ 4 ครับ เค้าเหนื่อยกับมันมา 2 ปี เต็ม แต่วันนี้เค้าทำได้แล้ว
พี่ผมสอบมาทั้งหมด 4 รอบ |
ผมดีใจด้วยเลย มา 2 คน ผ่านพร้อมกัน ถ้าผ่านคนเดียว อีกคนนึงคงเศร้าน่าดูครับ ผมเลยฉลองลงไปหาเบียร์มานั่งจิบกันซักหน่อย อิอิ แล้วก็นอนครับ ตื่นเช้า Check Out กลับ ขึ้นเครื่องบินตอน 10 โมงเช้า และก็ถึงกรุงเทพประมาณ 1 ทุ่ม (เวลาไทย) ครับ กลับบ้านพักผ่อน อาทิตย์หน้า กลับมาทำงานต่อ
ฉลองกันนิดหน่อย หลังสอบผ่านทั้งคู่ |
จบซะแล้ว >>>
เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับประสบการณ์การสอบ CCIE ของผม ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจ และผมคิดว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจได้ดี สำหรับคนที่อยากจะสอบนะครับ ถ้าคุณคิดว่าคุณท้อ คุณหมดกำลังใจ ผมอยากให้เอาบทความนี้เป็นแรงประตุ้นก็ได้ครับ กว่าผมจะทำมันสำเร็จได้ ผมต้องใช้เวลาฝึกซ้อมและอยู่กับมันอย่างหนัก ดูตัวอย่างจากพี่ผมได้ครับ นี่คือผลของความไม่ยอมแพ้ครับ ท้อได้แต่ห้ามถอย ล้มได้แต่ต้องลุก ผมว่ามันใช้ได้กับทุกเรื่องครับ ไม่ใช่เฉพาะการสอบ CCIE อย่างที่เค้าบอกกันว่า "ความสำเร็จ มันไม่มีทางลัดครับ"
การสอบ CCIE ครั้งแรกสำหรับผม มันทำให้ผมได้ประสบการณ์อะไรดีๆมากมาย รวมถึงการจัดการตัวเอง การจัดระเบียบเวลา การมีวินัย และอะไรหลายๆอย่างเลยครับ พอผมได้สอบ CCIE ผมเลยคิดว่า CCIE เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายๆอย่างในโลกของ Network ที่เรายังไม่รู้ การสอบ CCIE ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรู้ไปซะทุกอย่าง มันเป็นเพียงข้อสอบที่ใช้วัดความรู้เฉพาะด้านและวัดความมุ่งมั่นสำหรับคนที่ทำในสายงาน Network แบบพวกเราเท่านั้นเองครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ยังคงต้องศึกษาและหาความรู้ไปเรื่อยๆเพื่อให้ก้าวทันโลก IT ในปัจจุบัน แล้วเจอกันใหม่ในตอนที่ 3 สำหรับ วิธีการเตรียมตัวสอบ CCIE ครับ ขอบคุณครับ
By ReFeeL
ขอบคุณครับที่แบ่งปันสิ่งดีดีให้มาโดยตลอด > < มีแรงบันดาลใจเลยครับ แต่ผมไม่รู้จะแก่ไปรึยังที่จะเริ่มต้น ผม 27 แล้วอ่ะ T^T
ตอบลบ> < อยากทราบหนังสือเริ่มต้นครับ พอดีอยากเปลี่ยนสายงานผมว่าสายนี้น่าจะเป็นตัวผมที่สุดครับ พอดีหาหนังสือตามคำแนะนำของคุณ Refeel แล้วเค้าบอกมันไม่มีพิมแล้วอ่ะครับ T^T
ตอบลบไม่ใช่คำเยินยอนะครับ แต่จบอกว่า สุดยอดทำได้ไง คิดแล้วก็เหนือ่ย แต่ เป็ฯประโยชน์มากเลยครับ
ตอบลบสุดยอดความพยายามครับ
ตอบลบ