ประสบการณ์การเตรียมตัวสอบ CCNA

Updated Nov. 2016

สวัสดีครับ ห่างหายไปนานเหลือเกินเนื่องจากงานค่อนข้างยุ่งๆ ไหนจะมีงานสอนวันเสาร์-อาทิตย์อีกแหนะ วันนี้ได้พักละ ผมจึงอยากมาเล่าประสบการณ์ของผมในการเตรียมตัวและแนะนำการสอบ CCNA ให้ฟังครับ เพื่อใครหลายๆคนอยากที่จะสอบ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ ไปกันเลย !!!!

GO --->

CCNA (Cisco Certified Network Associate) เป็นใบประกาศณียบัตรวิชาชีพของบริษัท Cisco สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นในสายงาน IT Networking นั่นเอง ซึ่งถามว่า ทำไมต้อง Cisco ผมสอบของยี่ห้ออื่นไม่ได้หรอ ? คำตอบคือ ได้ครับ แต่ในตลาด Network ทั่วโลก Cisco เป็นผู้ครองตลาดมากถึง 80% เมื่อหลายปีก่อน (ปีหลังๆอาจจะลดลงบ้างเนื่องจากการแข่งขันและการพัฒนาที่สูงขึ้นของเจ้าอื่นไม่ว่าจะเป็น Juniper , HP เป็นต้น) รวมถึง Cisco มีสื่อการสอน และ Course ต่างๆ ให้ได้เรียนรู้ค่อนข้างเยอะกว่ายี่ห้ออื่นและยังเจาะตลาดลงไปถึงระดับมหาวิทยาลัย ทำให้การเรียนการสอนในวิชา Network นั้นจะอยู่กับ Cisco ซะเป็นส่วนมากครับ แต่ถ้าท่านใดไปทำงานที่ไม่ใช่ Product Cisco เช่น HP , Juniper , Allied Telesis , Acatel , Huawei และอื่นๆอีกมากมาย นั่นก็แาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องมาสอบ Certified ของ Cisco ก็ได้ครับ อาจจะสอบตาม Product นั้นๆไปเลย (เอาคร่าวๆเท่านี้ละกันครับ)

ช่วงเวลาก่อนที่จะสอบ CCNA ของผมเป็นอย่างไร --->

เริ่มด้วยที่มหาวิทยาลัยผมนั้นมีหลักสูตรของ Cisco Networking Academy มาให้เรียน ดังนั้นผมจึงมีพื้นมาบ้างแล้ว (ทั้งๆที่ตอนนั้นทั้ง Drop ทั้ง F วิชา Network เลย 555+) เมื่อเรียนจบผมเริ่มหางานทันทีด้วยความรู้เท่าที่มีอยู่ โดยที่ยังไม่มีใบ Certificate อะไรเลยแม้แต่ใบเดียว (มีแต่ใบปริญญา) เนื่องด้วยผมจบเกรดน้อยครับ 2.43 และมหาลัยที่ผมอยู่ไม่ใช่มหาลัยแนวหน้าซักเท่าไหร่ ทำให้การหางานของผมในช่วงแรกเป็นไปอย่างยากลำบากเลยก็ว่าได้ เปิด Google แล้ว Search เลย Cisco Partner (ผมรู้ว่าหลายคนเคยทำ 555+) แล้วไล่ส่ง Resume ไปทีละบริษัท ตั้งแต่ Premier ยัน Gold Partner เลย (ในใจก็คิดนะว่า เกรดก็น้อย มหาลัยก็ไม่ติดอันดับ Gold , Silver ที่ไหนเค้าจะเอาฟระ) MFEC , Datacraft (ปัจจุบันคือ Dimension Data) , Datapro , NetOne , TPS , Netbright , CSLox , Jasmine , 3BB , ITM และอื่นๆอีกเพียบ แล้วทุกที่ก็ เงียบบบบ T-T มีประมาณ 3 ที่ ที่เรียกมาคือ Jasmine , 3BB , NetOne แต่ทั้ง 3 ที่ให้ผมไปทำงาน Outsource โดยไม่เกี่ยวกับ Network เลย เค้าให้เหตุผลว่าน้องเกรดน้อย และไม่มีประสบการณ์การทำงาน (แน่ดิ กรูเพิ่งจบใหม่นี่หว่า T-T) แล้วเค้าก็ทิ้งท้ายไว้ถ้าน้องมี Cert. CCNA พี่อาจจะพิจารณาอีกทีในตำแหน่ง Network Engineer ให้ก็ได้นะ ผมเศร้าเลย ปฏิเสธไปทุกที ผมไม่ได้เลือกงานนะ แต่ผมแค่ขอได้ทำงานที่ชอบอยากทำเท่านั้นเอง...

มันเป็นเหตุผลให้ผมต้องสอบ CCNA --->

จากนั้นผมกลับมาคิดทบทวนซักพักนึง แล้วผมก็ตั้งเป้าหมายแรกกับตัวเองเลยว่าผมต้องสอบ CCNA ให้ได้ เนื่องด้วยตอนที่ผมเรียนหลักสูตร Cisco Network Academy นั้น ถ้าทำคะแนนของหลักสูตรได้เกิน 80% จะมี Voucher Discount CCNA ให้ 80% จึงเหลือค่าสอบเพียง 2,xxx บาท จาก 9,xxx โดยประมาณ

การเตรียมตัวสอบ CCNA จึงเกิดขึ้น --->

ผมกลับไปดูที่ Voucher ที่ผมได้มาอีกที เฮ้ย !!! มันจะหมดอายุซะแล้ว เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือน พระเจ้าาาาาา  !@#$%

ผมจึงตั้งสติใหม่ เอาวะ เท่าไหนเท่านั้น ผมจึงกำหนดวันสอบซะเลย 18 November 2010 เพื่อเป็นการกดดันตัวเอง (ไม่ใช่ไรหรอก จริงๆ Voucher จะหมดอายุ 555+) จากนั้นผมเริ่มด้วยการกลับไปทวนเนื้อหาตอนที่เรียนมาจากมหาลัยชื่อว่า "CCNA Exploration" ตัวนี้ดีมากครับ มีทั้งอธิบายการทำงานเป็น Animation แถมมี Lab จาก Cisco Packet Tracert ให้ทำเป็น Chapter ด้วย ใครอยากรู้ลองไปดู Demo ได้ตามนี้เลยครับ
>> Network Fundamentals Demo <<
>> Routing Protocols and Concepts Demo <<
>> LAN Switching and Wireless Demo <<
>> Accessing the WAN Demo <<

จากนั้นก็อ่านหนังสือ ผมแนะนำตามนี้ครับ

หนังสือภาษาไทย

1. เรียนรู้ระบบเน็ตเวิร์ก จากอุปกรณ์ cisco ภาคปฎิบัติ โดย อ.เอกสิทธิ์ วิริยจารี

สำหรับหนังสือเล่มนี้เนื้อหาค่อนข้างเก่าไปหน่อย เมื่อเทียบกับเนื้อหาของ CCNA ในปัจจุบัน (2559) แต่ยังคงใช้อ่านได้ เพราะยังมีเนื้อหาเดิมที่เหมือนกันอยู่ครับ

 

2 . และสำหรับหนังสือภาษาไทยเล่มเดียวสำหรับ CCNA R&S V3 (200-125) ตอนนี้ แนะนำเซ็ตนี้ครับ
เนื้อหาของหนังสือเซ็ตนี้ครบทุกบท ทุกตอน ของ CCNA R&S V3 แต่เนื้อหาจะเยอะมากๆๆๆ ผมแนะนำให้ค่อยๆทยอยอ่านนะครับ ไม่งั้นหนักหัวแน่นอน

สำหรับหนังสือภาษาอังกฤษ

1. How to master CCNA by Rene

เล่มนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัว เพราะเค้าเขียนอธิบายให้เราเข้าได้ง่ายมาก

2. CCNA R&S Official Cert Guide by Cisco Press
จริงๆในหลักสูตรเก่าๆผมแนะนำไม่ให้อ่านของ Cisco Press แต่หลักสูตรใหม่ 200-125 (ICND1 + ICND2) ถือว่าเนื้อหากระชับกว่ามากครับ และเล่มนี้เป็น Academic Edition จะพิมพ์สีครับ อ่านแล้วดูสบายตา สวยงามกว่าเล่มปกติครับ

 
ระหว่างที่ผมอ่านไปผมก็ไล่ทำ LAB ไปทีละหัวข้อ เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์จะถึงวันสอบ ชิบหาย ไม่ทันละ ยังอ่านไม่จบเลย ผมจึงหยุดทฤษฎี + LAB ไว้ ณ ตอนนั้น แล้วไปดูแนวและวิธีการสอบ

การอ่านหนังสือของผม ไม่ได้อ่านรอบเดียวจบ ผมจะอ่านรอบแรกก่อนเป็น Review (เพราะเวลาเราอ่านหนังสือรอบเดียวมันจำได้ไม่หมดหรอกครับ) แล้วผมก็อ่านทวนเป็นรอบที่ 2 รอบที่ 3 เพื่อเก็บตกบางหัวข้อ อันไหนอ่านไม่เข้าใจให้ Comment ไว้ อย่าไปงมกับหัวข้อนั้นนานๆ มันจะเบลอ ข้ามไปอ่านหัวข้ออื่นก่อน แล้วหัวข้อที่ติดไว้ ถ้าผมอ่านไม่เข้าใจจริงๆผมก็นำมา Search Google อีกที ไม่ก็ไปถามตาม Webboard ครับ

ผมไปอ่านแนวข้อสอบจากเว็บนี้
>> www.9tut.com <<

สามารถดูแนวข้อสอบได้เป็นหัวข้อเลยทีเดียว

ละก็ไปดูที่ Share Experience ว่าคนที่เค้าไปสอบเค้าเจออะไรมาบ้าง

จากนั้นผมก็หาแนวข้อสอบมานั่งทำ

วิธีการทำของผมก็คือ ไล่ทำทีละข้อโดยยังไม่ดูเฉลย ใช้ความรู้เท่าที่ตัวเองมี ถือว่าเป็นการทดสอบตัวเองไปด้วยเลย ข้อไหนที่ตอบผิดก็ไปไล่หาคำตอบว่าทำไมเราถึงตอบผิด ตรงส่วนนี้ผมใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เหลือสัปดาห์สุดท้ายนั่งทวนใหม่ไปเรื่อยๆจนคล่อง แล้วก็ทวน LAB

ผมดูวิธีการทำข้อสอบ Exam Tutorial มาบ้างแล้ว ใครอยากดู เข้าไปดูได้ที่นี่ครับ
>> Cisco Certificate Exam Tutorial <<

ถึงวันสอบ 18 November 2010 --->

ผมไปถึงศูนย์สอบก่อนเวลาประมาณ 15 นาทีได้ พอไปถึงเค้าก็ถามว่าพร้อมสอบเลยไหม ป๊าดดด โธ่ รีบจุงเบย ก็เลยบอกเค้าบอก สอบเลยก็ได้ครับ (ผมไปกับเพื่อน 2 คน เพื่อนมันเป็นคนดีมาก ให้ผมสอบก่อนเลย) เข้าไปนั่งที่หน้าคอม ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาแนะนำการสอบ ก่อนที่ผมจะกด Start ข้อสอบ ในห้องสอบจะมี Whiteboard กับปากกาให้ 1 ด้าม ผมเขียนตาราง IP Address ลงไปทั้งหมดกันพลาดตอนคำนวณ แนะนำให้เขียนเลยครับ จากนั้นกด Start !!! หน้าตาข้อสอบที่ฝึกมาคุ้นเคยก็ปรากฎขึ้นมา ระบบทำการจับเวลาถอยหลัง 2:30 ชม. ผมไม่รอช้าหวดทันทีครับ ทำตามที่ซ้อมมาทั้งหมด สมาธิสำคัญมาก ข้อสอบไม่ได้ตรงเป๊ะๆ มันมีการสลับ Choice เปลี่ยน IP Address บ้าง เพราะฉะนั้นเราต้องรอบคอบและตั้งสมาธิให้ดี ที่สำคัญเราไม่สามารถข้ามข้อแล้วกลับมาทำทีหลังได้ ผ่านแล้วผ่านเลยต้องระวัง เช็ค LAB ว่าทำครบทุกข้อจริง มันจะมี Scroll Bar มี Tab อะไร ให้คลิ๊กเลือกไปดูหมด Scroll Bar ก็เลื่อนลงมาให้สุด มันมีข้อล่างๆซ่อนอยู่ บางคนไม่ยอม Scroll Bar ไม่ยอมเลือก Tab ทำให้คะแนนหายไปเลย เพราะถือว่าไม่ได้ทำ ผมใช้เวลาทำข้อสอบประมาณ 45 นาที จึงตัดสินใจกด End Exam ปรากฎคะแนนออกมา จำไม่ได้แล้วเท่าไหร่ แต่มันขึ้นว่า Congratulation !!! ตอนนั้นโล่งทันที ทุกอย่างมันเบาหวิวเลย ดีใจมาก 555+

หลังจากที่ผมสอบผ่าน CCNA ผมก็ได้ยื่น Resume ไปใหม่ ทำให้หลายบริษัทเรียกเข้าสัมภาษณ์มากขึ้น จนผมก็ไปได้บริษัทแห่งนึงเป็น ISP ในตำแหน่ง Network Engineer ฝ่าย Network Operation (NOC) เพื่อหาประสบการณ์ในช่วงแรก และสุดท้ายได้มาอยู่บริษัท SI ที่เป็น Cisco Gold Partner ครับ

บางคนถามว่า ทำไมผมถึงต้องมาให้เน้นทฤษฎีอะไรขนาดนี้ ??
ผมจะ บอกว่าการที่มี Certificate มันเหมือนดาบสองคมครับ ยกตัวอย่าง คุณสอบได้ CCNA มาละ บริษัทรับคุณเข้าทำงานไป Support ให้ลูกค้าที่นึง คุณอยู่ต่อหน้าลูกค้า เมื่อลูกค้าถาม คุณตอบได้ มันเป็นเครดิตที่ดีทั้งตัวคุณและ บริษัท แต่ถ้าคุณตอบไม่ได้ ทำไม่ได้ขึ้นมา คราวนี้แหละ เสียเลย ผมเคยเจอลูกค้าที่เก่งๆก็มีนะครับ เห็น Engineer มี CCNA , CCNP มา ก็ลองวิชาเลยก็มี แล้วประเด็นสำคัญเลยคือ ถ้าคุณไม่รู้ทฤษฎี คุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง !!! เอ๊ะ เหมือนรายการอะไรซักอย่าง ไม่ใช่ๆ เอาใหม่ ถ้าคุณไม่รู้ทฤษฎีเลยเนี่ย จะทำให้คุณเกิดปัญหาหลักๆ .... ดังนี้

• ตอบคำถามลูกค้าไม่ได้
• แก้ ปัญหาไม่ได้ (เพราะการแก้ปัญหานอกจากจะใช้ประสบการณ์แล้ว ทฤษฎีนี่แหละคือสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งในการแก้ปัญหาทฤษฎีก็ไม่ช่วยนะ 555+)

ผมเคยได้เขียนเรื่องของการมี Certificate ติดตัวไว้เมื่อปีที่แล้ว ลองไปอ่านดูได้ครับ
>> อีกหนึ่งมุมมองในการมี Certificate ติดตัว <<

เพราะฉะนั้นสรุปการเตรียมตัวสอบครับ

ถ้าอยากสอบผ่านอย่างเดียว ท่องข้อสอบไปได้เลยครับ..... แต่ถ้าอยากผ่านแบบได้ความรู้ เตรียมตัวตามนี้ครับ

1.ตั้งเป้าหมาย กำหนด Deadline ให้ตัวเอง โดยการกำหนดวันสอบไปเลยครับ ถ้าไม่กำหนดเดี๋ยวตัวเราก็จะถัดวันไปเรื่อยๆ

2. ลงมือทำ เริ่มต้นจากการอ่านหนังสือ ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ลองหาคอร์สอบรม CCNA ดูครับ 5-6 วัน ราคาไม่แพงจะช่วยให้เราเข้าใจเร็วขึ้น เช่น

www.facebook.com/NetPrimeTraining
www.netprime-system.com
www.bloggang.com/mainblog.php?id=likecisco
www.ninehua.com

สถาบันอบรมที่ผมแนะนำนี้ มีคุณภาพสูงด้วยอาจารย์ระดับ CCIE และมีประสบการณ์การสอนและการทำงานมามากครับ

3. ฝึกซ้อมทำ Lab ให้เชี่ยวชาญและคล่องมือ เราจะต้องรู้ว่า เรา config แบบนี้ไปเพื่ออะไร และทำไปทำไม นะครับ

4. นำแนวข้อสอบมานั่งทำโดยยังไม่ต้องดูเฉลยครับ ลองฝึกตัวเองดูว่าทำได้แค่ไหน ข้อไหนที่ผิด ลองกลับไปเปิดหนังสือดูว่า ผิดเพราะอะไร หรือจะไปถามในกลุ่ม facebook ต่างที่ผมแนะนำอยู่ด้านล่างก็ได้ครับ

5. ที่เหลือก็ฝึก ฝึก และ ฝึก ครับ จากนั้นก็ไปลุยสอบกันได้เลยครับ

แนะนำหนังสือ
CCNA ภาคปฎิบัติ โดย อ.เอกสิทธิ์
CCNA Offcial Cert Guide (Cisco Press) โดย Odom Wendell
CCNA R&S V3.0 ภาษาไทย โดย คงศักดิ์ เล็กมณี

Update หนังสือใหม่น่าสนใจเพิ่มเติม
How to Master CCNA โดย Rene Molenaar
Cisco Press CCNA Routing and Switching Guide Librar
CCNA labs walkthrough มีครบทุกเนื้อหาแล็ป โดย คงศักดิ์ เล็กมณี


แนะนำเว็บไซต์ ในประเทศ
www.thaiadmin.org
www.siamnetworker.com
www.running-config.blogspot.com
www.bloggang.com/mainblog.php?id=likecisco
www.netprime-system.com/articles/

แนะนำกลุ่มใน Facebook
www.facebook.com/groups/CCNAHunterGroup
www.facebook.com/running.config
www.facebook.com/NetPrimeTraining
www.facebook.com/mom.im.hungry.th

แนะนำ Youtube ภาษาไทย
www.youtube.com/NetPrimeSystems 

แนะนำเว็บไซต์ ต่างประเทศ
http://www.9tut.com 
ดู LAB ที่มีในข้อสอบ LAB 4 ข้อ

• RIPv2
• DHCP
• OSPF
• ACL

http://www.9tut.com/share-your-experience 
ดู share-your-experience จากคนที่เคยสอบมา เป็นประโยชน์มากๆเลยครับ เช่น New question ดีมากๆ

http://freeccnalab.com/ 
มี Lab ให้ทำจาก Packet Tracer เยอะมากๆครับ

https://networklessons.com/ccna-rs-lessons/
เว็บนี้ถือว่าเป็นเว็บต่างประเทศที่เด็ดมากครับ มีเนื้อหาทฤษฎีตั้งแต่ CCNA ถึง CCIE เลยทีเดียว 

http://gns3vault.com/labs/
เว็บนี้ Advance หน่อยครับ มีเกือบทุกหัวข้อ ตั้งแต่ CCNA ถึง CCIE เลยครับ แต่ใช้งานผ่าน GNS3 ครับ เยี่ยมมาก เจ้าของเดียวกันกับ networklesson

http://www.freeccnaworkbook.com/workbooks/ccna
อันนี้ Lab ก็เยอะ เนื้อหาเยอะดี แต่จะไม่มีไฟล์ Lab ให้ครับ มีแต่วิธีทำ เราจะต้องไปต่อเอาเองครับ


สุดท้ายแล้วผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน สู้ๆ เพื่อ เส้นทางสู้ โลกของ Network ใครมีข้อสงสัยถามผมได้นะ ผมยินดีให้คำปรึกษาและตอบคำถาม


และมีพี่คนนึงเคยฝากข้อความไว้ว่า

อย่ามองโลกในแง่ร้าย แล้วก็อย่ามองโลกในแง่ดีจนเกินไป ไม่ว่าเซอร์หรือประสบการณ์ ทั้งคู่ไม่สำคัญเท่าความรู้หรือไหวพริบ

เคยสัมภาษณ์เด็กคนนึง พึ่งจบใหม่ๆ ไม่มีเซอร์ ไม่มีประสบการณ์ แต่พูดจาฉะฉาน ตอบตรงประเด็ด ไม่อ้อมค้อม ให้ลองทำแล็ป ไม่ว่าจะระดับ NA หรือ NP ก็ทำได้ คนแบบนี้ ไม่ต้องมีทั้งเซอร์หรือประสบการณ์ ใครก็อยากรับเข้าทำงาน หนึ่งปีผ่านไปเขาก็ได้ ปรับตำแหน่งเป็นซีเนีย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีเซอร์สักใบเหมือนเดิม บริษัทหลายบริษัทมาแย่งกันซื้อตัวแทบทุกเดือน

แต่กลับกันอีกคนทำงานมาห้าปี มีเซอร์ระดับ P เต็มตัว แทบจะครบทุกสาย แต่ทำอะไรแทบไม่เป็นเลย สั่งงานที กว่าจะทำเสร็จ เสียเวลาเป็นอาทิตย์ๆ ทุกวันนี้เป็นซีเนีย ยังไง ก็ยังเป็นแบบนั้น อยากจะลาออกก็ไม่ได้ ไม่มีที่ไหนอยากซื้อตัวไปทำงาน

อย่ามองว่าเซอร์คือยาวิเศษมีแล้ว จะทำให้ถนนลูกรังกลายเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ถ้าคิดแบบนั้น มันจะทำร้ายตัวเองเปล่าๆ ต่อให้ มีเซอร์ Arch แต่ถ้าในห้องสัมภาษณ์ไม่สามารถตอบคำถามได้สักคำ เขาก็ไม่รับเข้าทำงานหรอก "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เซอร์ แต่อยู่ที่ ว่ามีความรู้คู่ควรกับ เซอร์ใบนั้นๆ หรือยังต่างหาก"

สุดท้าย ผมมีสิ่งที่อยากจะฝากไว้ให้กับผู้ที่กำลังจะสอบหรืออยากจะสอบ CCNA ไว้ครับ

• พยายามอ่านทฤษฎีให้เข้าใจและฝึกทำ LAB เยอะๆ มันจะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น

• ถ้าอ่าน Text ไม่เข้าใจ แนะนำให้หาหนังสือภาษาไทยอ่านก่อนครับเอาให้แน่นๆ แล้วขยับไปอ่าน Text จะทำให้อ่านง่ายขึ้น เพราะในระดับสูงขึ้นไปมันก็มีแต่ Text Book ให้อ่านอย่างเดียวละครับ ต้องฝึกไว้
• ถ้าคิดอยากจะต่อในระดับสูง CCNP , CCIE หรืออื่นๆ อย่างที่บอกครับต้องแน่นพื้นฐานครับ แล้วเราจะต่อยอดขึ้นไปได้ง่าย เพราะถ้าคุณไม่แน่นพื้นฐานแล้วเวลาไปอ่านระดับ CCNP หรือ CCIE จะทำให้อ่านยาก ใครที่อ่าน CCNP หรือ CCIE อยู่แล้วคิดว่าอ่านยากไม่เข้าใจ ผมแนะนำให้กลับไปทวน CCNA ใหม่อีกครั้ง เพราะมันแสดงถึงว่า CCNA คุณยังไม่แน่นพอ (ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งนะ เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน ผมยอมรับเลยว่าตอนสอบ CCNA ผมคิดว่าแน่นแล้ว แต่จริงๆ มันยังไม่แน่นพอ ตอนจะสอบ CCNP ทำให้ต้องย้อนไปอ่าน CCNA ใหม่อีก)

"การที่ผมสอบ CCNA ผมไม่ต้องการเพื่อกระดาษ 1 ใบ ที่มีชื่อผมอยู่ในนั้นและบอกว่าผมเป็น CCNA Certified หรือเพื่อให้หางานได้ง่ายขึ้น เงินเดือนที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ผมต้องการคือความรู้และความสามารถที่จะได้นำไปใช้งานการทำงานจริงมากกว่า"

ผมจึงหวังว่าประสบการณ์ที่ผมได้แชร์ต่อให้หลายๆท่านได้อ่านกันคงเป็นประโยชน์บ้างนะครับ แล้วไว้เจอกันคราวหน้า ผมอาจจะแชร์ในส่วนของการเตรียมตัวสอบ CCNP และการเตรียมตัวสอบ CCIE ให้ก็ได้ ถ้าผมมีเวลาว่าง ขอให้ทุกท่านสอบผ่านกันทุกคนนะคร้าบบบ ^_^


By ReFeeL
1st Updated 06/2015
2nd Updated 11/2016