วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อีกหนึ่งมุมมองในการมี Certificate ติดตัว

เป็นหนึ่งความเห็นคิดเห็นมุมนึงของผมสำหรับการมี Certificate ติดตัว จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาในความคิดและมุมมองของผมเอง ผมเลยอยากมาแชร์ให้ได้ฟังกันครับ ถ้าเกิดไม่ตรงกับท่านใดก็ขออภัยไว้ก่อนด้วยนะครับ


Certificate คือ ใบประกาศณียบัตรที่ใช้รับรองว่า คุณมีความสามารถที่จะทำสิ่งนั้นได้ ซึ่งหลายสาขาในการทำงานก็มีแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ภาษาอังกฤษ ก็มีพวก TOEIC , TOEFL หรือนักตรวจสอบบัญชีก็มีการการสอบ Certificate เหมือนกัน เช่นเดียวกับงานสาย IT ก็มีการสอบ Certificate เหมือนกันครับ เพื่อรับรองว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานได้นั่นเอง


คนที่มี Certificate ไม่ได้หมายความว่าเก่งทุกคน และ คนที่เก่งบางคนก็ไม่มี Certificate

เพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว Certificate มันตัดสินอะไรไม่ได้หรอกครับ การที่เค้า Require Certificate หลักๆแล้วผมเห็นอยู่ 2 อย่างคือ
1. ใช้ตอนประมูลโปรเจ็ค โดยปกติแล้วเวลาที่บริษัทเข้าไปประมูลที่รับโปรเจ็ค ก็จะมี Requirement ว่าการจะทำงานโปรเจ็คนี้ได้จะต้องมี Engineer ที่มี Certified การันตีมา ว่ามีฝีมือพอที่จะทำงานนี้ได้ เช่น CCNA , CCNP หรือจะเป็น Product อื่นๆ ก็ว่าไป บางทีก็เอาชื่อคนมี Cert. ไปลงไว้ตอนประมูลโปรเจ็ค แต่คนที่ทำจริงๆเป็นอีกคน.. แบบนี้ก็มี
2. ใช้เพื่อ Certified Partner ของแต่ละเจ้า อย่างของ Cisco ก็จะมีบอกว่าการที่บริษัทจะเป็น Silver Partner จะต้องมี CCIEx2 , CCNPx4 ฯลฯ หรือ จะเป็น Gold Partner จะต้องมี CCIEx4 , CCNPx4 ฯลฯ และอื่นๆก็ว่าไป

เพราะฉะนั้นแล้วก็ไม่แปลกในบางครั้งที่บริษัทยัดๆๆให้สอบเพื่อสิ่งพวกนี้ที่ กล่าวมา หรือไม่ก็เวลามีคนลาออก ก็ต้องไปสอบเพื่อเอา Cert. ไปแทนคนเดิม เป็นต้น ทำให้ Cert. ที่ได้มาเหล่านั้นมันดูธรรมดามาก เพราะปัจจุบันใครก็สามารถสอบผ่านได้ เอาคนที่ไม่รู้เรื่อง Network มาสอบ ให้ท่อง Dump ไป 1 สัปดาห์ ก็สามารถผ่านได้ แต่สิ่งที่ตามมานั้นคืออะไร จากการท่องไปสอบ
1. config ไม่ได้
2. troubleshooting ไม่ได้
3. ตอบโจทย์และแนะนำลูกค้าไม่ได้ (กรณีหน้างาน ถ้าเป็นกรณีไม่ใช่หน้างานก็ยัง google ได้ จะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวเราและบริษัทมากขึ้น)

แต่ถ้าจำเป็นต้องท่องจริงๆ เช่น บริษัทกดดัน ต้องสอบให้ผ่านภายใน 7 วัน อะไรแบบนี้ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร มาอ่านย้อนหลังเอาก็ไม่ถือว่าเลวร้ายเท่าไหร่นะ

จากที่พูดมาจะเห็นว่าสิ่งที่สำคัญกับตัวเองนั้นไม่ใช่ Cert. แต่คือความรู้ ประสบการณ์และไหวพริบต่างหาก

ลองสมมุตินาย A ทำงานมาได้ซัก 5 ปี นาย A ไม่มี Cert. แต่นาย A มีประสบการณ์การทำงานมาค่อนข้างมาก เช่น Switching , Routing , Network Management , Network Security (พูดแบบกว้างๆละกัน) ถ้าเกิดนาย A อยากจะสอบ CCNA คงไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหมครับ เผลอๆ สอบ CCNP ต่อยังได้สบาย นาย A อาจจะท่องไปสอบ แต่นาย A ทำเป็นเพราะเคยทำมาหมดแล้ว เป็นต้น แบบนี้เรียกว่า มีความรู้คู่ควรกับ Cert.

เด็กใหม่ๆหลายคน อยากที่จะสอบ Cert. ก็ไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่บางครั้งก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย ไม่ใช่เข้ามาใหม่ๆ ผ่านโปรขอสอบ CCNA พอผ่านไป 2 เดือนขออยากสอบ CCNP แบบนี้ผมก็เคยเห็นมาแล้ว เพราะการทำงานมันต้องอาศัยประสบการณ์ไม่ใช่แค่อ่านอย่างเดียว แต่ถ้าคุณเทพจริง พร้อมจริง คุณสอบได้ ทำได้ เก่งได้ แบบนั้นยิ่งดีมากเลยครับ

ผมจึงพูดในมุมมองของผมที่เคยผ่านมา เพื่อให้ได้เห็นสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ไม่ได้ห้ามท่องไปสอบ ไม่ได้ห้ามสอบ ตัวผมเองไม่ได้เก่ง ตอนจะสอบก็ท่องเหมือนกันแหละ เพียงแต่จะบอกว่า การที่ไปเอา Cert. มา 1 ใบนั้น ตัวเราได้ประโยชน์อะไรจากมันบ้าง (นอกจากได้ค่า Cert. ฮร่าๆ) อยากให้ไว้เป็นมุมมองนึงครับ

เราไม่ได้ท่องข้อสอบ แต่เราทวนจนมันจำได้เอง (เหมือนจะดูดี 555+)

ยกตัวอย่างแบบที่ผมเคยเจอแบ่งให้เห็นได้เลยนะ
1. บางคนมี CCNA แต่ทำงานได้ถึงระดับ CCNP
2. บางคนมี CCNP แต่ทำงานได้ถึงระดับ CCIE
3. บางคนไม่มี Cert. แต่ทำงานได้ในระดับ CCNP ถึง CCIE
4. บางคนมี CCNA , CCNP แต่ทำอะไรไม่เป็น (CCIE ตอบมั่วผมก็เคยเจอมาแล้ว)

คุณอยากเป็นเหมือนข้อไหนก็เลือกได้ด้วยตัวคุณเองเลยครับ

การมี Cert. เหมือนดาบสองคม ตอบได้ ทำได้คุณเก่ง แต่ถ้าตอบไม่ได้ ทำไม่ได้ หรือแม้แต่คุณลืม ลูกค้าจะมองว่าคุณกากเลยล่ะ


Engineer ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก (ถ้าข้อสอบเป็นภาษาไทย รึเปล่า 55+)


By ReFeeL

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น