GO --->
CCNP (Cisco Certified Network Professional) เป็นใบประกาศณียบัตรวิชาชีพของบริษัท Cisco ในระดับที่สูงขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งของ Cisco ซึ่งการสอบใน CCNP ก็จะมีความยากกว่า CCNA ขึ้นมาพอสมควร เนื้อหาจะเจาะลึกเข้าไปอีกในแต่ละหัวข้อที่ต่อยอดมาจาก CCNA และมีเนื้อหาใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยครับ ซึ่งการสอบ CCNP นั้น ผู้ที่จะสอบจะต้องผ่าน CCNA มาก่อนครับ ถึงจะสามารถสอบ CCNP ได้การสอบ CCNP เราจะต้องสอบให้ครบทั้งหมด 3 วิชา ถึงจะได้ CCNP Certified โดยมีดังนี้
1. ROUTE (642-902)
2. SWITCH (642-813)
3. TSHOOT (642-832)
ราคาค่าสอบ วิชาละ 200$ ถ้าสอบครบทั้ง 3 ตัว ก็จะเป็นเงินทั้งสิ้น 600$ ครับ โดยการสอบ 1 วิชาจะมีอายุ 2 ปี และยังสามารถ Re-Certify ในระดับที่ตำกว่า และในระดับที่เท่ากันได้ เช่น CCNA หรือ CCNP
เพราะฉะนั้นการวางแผนสอบ CCNP ผมมองว่าเป็นไปได้ 2 แบบครับ
แบบที่ 1. สอบเรื่อยๆ รอต่ออายุ Cert ตัวเก่า :
ถ้าผมมี CCNA อยู่ มีอายุ 3 ปี แล้ว CCNA ผมกำลังจะหมดอายุ จำเป็นที่จะต้อง Re-Certify เราสามารถสอบ Cert. ในระดับเดียวกันตัวไหนก็ได้ (CCNA R&S , CCDA , CCNA Security และอื่นๆ) เพื่อ Re-Certify CCNA หรือเราเลือกที่จะสอบ CCNP เลยก็ได้ แต่สอบแบบทีละ 1 วิชา ตัวอย่างเช่น CCNA จะหมดอายุละ ผมก็ไป Re-Certify โดยการสอบ CCNP ซัก 1 วิชาก่อน ผมอาจจะไปสอบ ROUTE หรือ SWITCH หรือ TSHOOT ก็ได้ พอสอบผ่านมา 1 วิชา เราก็จะสามารถต่ออายุ CCNA ออกไปได้อีก 2 ปีครับ แต่เราจะยังไม่ได้ CCNP เราจะต้องสอบอีก 2 วิชาที่เหลือให้ครบ
ปีที่ 1 CCNA (มีอายุ 3 ปี)
ปีที่ 2 CCNA
ปีที่ 3 CCNA (หมดอายุ)
ปีที่ 3 CCNA Re-Certify , ROUTE (มีอายุ 2 ปี)
ปีที่ 4 CCNA , ROUTE
ปีที่ 5 CCNA , ROUTE (หมดอายุ)
ปีที่ 5 CCNA Re-Certify , ROUTE , SWITCH (มีอายุ 2 ปี)
ปีที่ 6 CCNA , ROUTE , SWITCH
ปีที่ 7 CCNA , ROUTE , SWITCH (หมดอายุ)
ปีที่ 7 CCNA Re-Certify , CCNP (ครบ 3 ตัว ได้ CCNP Certified)
ปีที่ 7 CCNA , CCNP (มีอายุ 3 ปี)
การสอบแบบนี้ผมเรียกว่าเป็นการสอบต่ออายุ Cert. ไปเรื่อยๆ แทนที่เราจะสอบ CCNA เพื่อ Re-Certify CCNA เราก็ไปสอบ CCNP ดีกว่า พอครบ 3 ตัวเราก็ได้ CCNP มาด้วยครับ
การสอบแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รอต่ออายุ Cert. เรื่อยๆ ไม่รีบอะไรมากมายครับ
แบบที่ 2. สอบรวดเดียว ออกแนวบ้าพลัง ไฟแรง :
อันนี้ก็ตรงตัวเลยครับ คือ ไม่ต้องมารอ Cert. หมดอายุแล้วค่อยต่อละ เราสอบรวดเลยครับ อาจจะแบ่งว่า 2 เดือน 1 วิชา อะไรประมาณนี้ครับ พอครบ 6 เดือน สอบครบทุกวิชา เราก็จะได้ CCNP มาครองนั่นเองด้วยเวลาอันรวดเร็ว อันนี้จะช้าจะเร็วก็แล้วแต่บุคคลนะครับ
จริงๆใครอยากรู้เรื่อง Re-Certify หรือ อายุ Cert. ของ Cisco เพิ่มเติม ผมเคยเขียนไว้แล้วครับ ลองตามไปอ่านดูได้ครับ
>> อายุของ Cisco Certification Expired และการ Re-Certify <<
โหววว เกริ่นนำมายาวพอสมควร เลยครับ กลัวทุกท่านจะไม่เข้าใจกัน ฮ่าๆๆๆ ที่นี้ลองมาดูกันว่า ผมเลือกการวางแผนการสอบ CCNP แบบไหน.....
.
.
.
.
แน่นอนครับ ผมเลือกแบบที่ 2.
ทำไมถึงอยากจะก้าวไปสู่ CCNP --->
ด้วยความไฟแรงครับ ยิ่งสอบผ่าน CCNA มาแล้ว มันก็ยิ่งอยากลุยต่อ อยากรู้ อยากอ่าน ว่าเนื้อหาต่อไปมันจะเป็นแบบไหน มันจะมีอะไรเพิ่มขึ้น เพราะผมคิดแล้วว่าแค่ CCNA มันยังไม่พอครับ CCNA นี้คือพื้นฐานที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการ Networking เนื่องด้วย ช่วงที่ผมผ่าน CCNA มาได้ซักระยะ ผมก็ได้มาเป็นอาจารย์สอนวิชา CCNA ในบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นบริษัท Training เกี่ยวกับ Cisco มีทั้งคอร์ส CCNA , CCNP , CCDA และคอร์สอื่นๆอีก แต่ผมก็ได้เข้าไปสอนคอร์ส CCNA แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ การสอบผ่านไม่ได้การันตีว่าเราจะมีความรู้พอที่จะสอนคนอื่นได้ดีพอ เพราะถ้าคุณสอน CCNA แล้ว คนสอนมีความรู้แค่ CCNA นั้นไม่เพียงพอครับ คุณจะต้องรู้ให้มากกว่า CCNA เพื่อใช้ตอบคำถามคนที่มาเรียน หรือ ใช้ในการมองภาพกว้างว่า ยังมีอีกหลายๆเทคนิคที่สามารถทำได้ ไม่ใช่แค่ใน CCNA และผมยังมีเป้าหมายว่าผมจะต้องเข้าไปทำงานในบริษัทที่เป็น SI ของ Cisco Gold Partner ให้ได้ เพราะถ้ามี Cert. เป็นตัวเบิกทาง ก็จะทำให้ผมมีโอกาสมากขึ้น ทั้งหมดนี้มันคือแรงผลักดันให้ผมอยากจะสอบ CCNP ครับจึงเป็นเหตุผลให้ผมเตรียมสอบ CCNP --->
ผมเริ่มตั้งเป้าหมายเลยครับ ก็มาคิดว่าจะสอบวิชาไหนก่อนดี เนื้อหา SWITCH ก็มีเพิ่มเข้ามาจาก CCNA เยอะเหมือนกัน เช่นพวก Private VLAN , VLAN ACL , QoS , Wireless , Voice แล้วลองไปดูเนื้อหา ROUTE ก็มีเจาะลึก OSPF , EIGRP มากขึ้น มี PBR , Route-map , Prefix-list , Redistribution ส่วนที่จะหนักหัวหน่อยก็ BGP , IPv6 ลองดูๆแล้วผมก็เลยเลือกที่จะสอบ ROUTE ก่อน เพราะผมรู้สึกว่าเนื้อหาของ ROUTE อ่านง่ายกว่า ส่วน TSHOOT เป็นแนว Troubleshooting ครับ จะให้ดีก็ควรจะผ่าน ROUTE กับ SWITCH มาก่อน จะทำให้อ่าน TSHOOT ง่ายขึ้นการเตรียมสอบ CCNP ของผมจึงเกิดขึ้น --->
ผมหาหนังสือมาอ่านครับ CCNP ROUTE Official Cert Guide อ่านไปได้ไม่นาน ผมเจอปัญหาแรก คือ รู้สึกว่าไม่รู้เรื่อง ผมเริ่มเครียดละ ผมตั้งเป้าหมายไว้ 3 เดือนครับ ซวยละสิ ทฤษฎีผมไม่แม่น ทำให้ผมต้องกลับไปหาหนังสือ CCNA มาอ่านใหม่เพื่อรื้อฟิ้นทฤษฎีครับ ใช้เวลาเกือบ 1 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มเข้าที่ จะนั้นก็หยิบหนังสือ CCNP ROUTE มาเริ่มอ่านใหม่ คราวนี้โอเคเลยครับ อ่านไหลลื่นดี แต่ก็เจอปัญหาอีกว่า อ่านอย่างเดียวมันไม่เข้าหัว ผมเลยมาทำ Short Note ของแต่ละหัวข้อสรุปไว้ และหา LAB ทำ เพื่อเทสไปเรื่อยๆครับ ใช้เวลานานนิดนึงแต่เข้าหัวมากขึ้นครับ เข้าใจมากขึ้นด้วย แหล่มเลย มีกำลังใจอ่านต่อละ อ่านไป ทำ LAB ไป เรื่อยๆครับ จนจบ ใช้เวลา 2 เดือน แต่ยังมีหัวข้อที่ไม่เข้าใจกระจ่างซะทีเดียว อย่างพวก Prefix-List , BGP ยิ่ง BGP นี่ตัวมึนเลยครับ ผมก้อเลย Note ไว้ก่อนละกัน เดี๋ยวจะวนกลับมา ขอพักก่อน สมองมึนมาก 555+ แต่ผมจะบอกว่า ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มเดียวนะครับ ผมมีหนังสือหลายเล่มที่ใช้อ่านนี่คือ List หนังสือที่ผมอ่าน (เท่าที่ผมจำได้นะครับ นานแล้วอาจจะลืมๆไปบ้าง ฮ่าๆ)
- CCNP ROUTE Official Certification Guide By Cisco Press
- How to master CCNP ROUTE By Rene Molinaar
- CCNP ROUTE Simplified By Browning Paul
ยังมี Video ของ INE (Internetwork Expert) ที่ผมเอามาดูด้วย แต่โดยส่วนหนังสือผมชอบ How to master CCNP ROUTE ครับ อ่านง่ายและอธิบายชัดเจนครับ
การอ่านหนังสือของผม ไม่ได้อ่านรอบเดียวจบ ผมจะอ่านรอบแรกก่อนเป็น Review (เพราะเวลาเราอ่านหนังสือรอบเดียวมันจำได้ไม่หมดหรอกครับ) แล้วผมก็อ่านทวนเป็นรอบที่ 2 รอบที่ 3 เพื่อเก็บตกบางหัวข้อ อันไหนอ่านไม่เข้าใจให้ Comment ไว้ อย่าไปงมกับหัวข้อนั้นนานๆ มันจะเบลอ ข้ามไปอ่านหัวข้ออื่นก่อน แล้วหัวข้อที่ติดไว้ ถ้าผมอ่านไม่เข้าใจจริงๆผมก็นำมา Search Google อีกที ไม่ก็ไปถามตาม Webboard ครับ
เดือนสุดท้าย ผมก็หาข้อสอบมาลองผ่านลองทำดูครับ
ผมไปอ่านแนวข้อสอบจากเว็บนี้
>> www.digitaltut.com <<
และผมก็ทำเหมือนตอนสอบ CCNA ครับ ท่านใดได้อ่านบทความของ CCNA น่าจะพอนึกออกนะครับ คือไปอ่าน Sharing Experience จากในเว็บ ว่าใครเจอข้อสอบแนวไหน เจออะไรกันมาบ้าง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
รอบนี้ถึงตอนสอบ ผมไม่ได้ตื่นเต้นเท่าตอนสอบ CCNA ครับ อาจจะแบบว่า เคยผ่านมาแล้วอะไรทำนองนั้นครับ ฮ่าๆ ก็จะเป็นข้อสอบเหมือน CCNA ครับ คือมี Choice , Multiple Choice , Drag and Drop แล้วก็ LAB น่าจะ 3 ข้อนะครับ ใช้เวลาทำข้อสอบราวๆ 1 ชั่วโมงกว่า ผลออกมาผ่านก็ดีใจครับ คุ้มค่าละกับที่จ่ายเอง 555+
ในที่สุด ผมก็ได้ CCNP โดยใช้เวลา 1 ปี --->
ช่วงที่ผมไปสอบ CCNP ROUTE ผมเพิ่งเข้าไปทำงานที่บริษัท SI ที่เป็น Cisco Gold Partner พอดีเลยครับ ก็เลยขอหัวหน้าสอบต่อเลย แต่ตอนนั้นเพิ่งเข้าหัวหน้าบอกรอให้ผ่านโปรก่อน และขอดูความสามารถอีก 1 ปี ครับ (บริษัทผมค่อนข้างเคร่งเรื่อง Cert. มากครับ) ผมก็เลยรอไปเกือบ 1 ปีครับ ระหว่างนั้นก็อ่านวิชา SWITCH ไปเรื่อยๆ ตัวนี้เลยมีเวลาอ่านเยอะหน่อย ประกอบกับพอผมได้ทำงานในบริษัท SI ที่เป็น Cisco Gold Partner ทำให้ผมได้ทำ Switch เยอะขึ้น จนบางหัวข้อในเนื้อหา ผมอ่านและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว ของ SWITCH ก็จะติดนานตรง QoS , Wireless , Voice ครับ เนื่องจากยังไม่ได้จับ เลยไม่เข้าใจเอาซะเลย ก็ Note ไว้เหมือนเดิมครับ หนังสือ ผมก็ใช้ชุดเดิมที่ใช้ตอนอ่าน ROUTE ครับ พอขอหัวหน้าสอบได้ ก็ลุยเลยครับ เพราะเราเตรียมตัวมาไว้อยู่แล้ว หลังจากผ่าน SWITCH ไม่นาน ผมใช้เวลา 1 เดือน สอบ TSHOOT ครับ เพราะอ่านไม่เยอะเท่าไหร่ TSHOOT ก็คือเนื้อหาของ ROUTE+SWITCH ครับ แต่เน้นการแก้ปัญหา
สอบตก จากการที่จัดการตัวเองผิดพลาด --->
การสอบ TSHOOT ผมจัดการตัวเองผิดพลาดครับ ทำให้ผมตกในการสอบครั้งแรกครับ !!! ผม Fail มากเลยครับ ตัวสุดท้ายแท้ๆ แต่เตรียมตัวมาไม่ดี ผมเลยขอหัวหน้าสอบอีกรอบครับ คราวนี้ต้องเอาให้ได้ เตรียมตัวอย่างดีครับ ผลสุดท้าย เต็ม 1000 ครับ ผมโล่งเลยครับ 555+ มันเป็น 3 วิชาที่เหนื่อยใช้ได้เหมือนกันที่ใช้เวลากับมัน และสุดท้ายผมก็ได้ CCNP มาครอบครอง
เน้นตั้งแต่ตอนเขียน CCNA ครับ ขอนำคำพูดเดิมมาลงอีกครั้ง
บางคนถามว่า ทำไมผมถึงต้องมาให้เน้นทฤษฎีอะไรขนาดนี้ ??
ผมจะ บอกว่าการที่มี Certificate มันเหมือนดาบสองคมครับ ยกตัวอย่าง คุณสอบได้ CCNA มาละ บริษัทรับคุณเข้าทำงานไป Support ให้ลูกค้าที่นึง คุณอยู่ต่อหน้าลูกค้า เมื่อลูกค้าถาม คุณตอบได้ มันเป็นเครดิตที่ดีทั้งตัวคุณและ บริษัท แต่ถ้าคุณตอบไม่ได้ ทำไม่ได้ขึ้นมา คราวนี้แหละ เสียเลย ผมเคยเจอลูกค้าที่เก่งๆก็มีนะครับ เห็น Engineer มี CCNA , CCNP มา ก็ลองวิชาเลยก็มี แล้วประเด็นสำคัญเลยคือ ถ้าคุณไม่รู้ทฤษฎี คุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง !!! เอ๊ะ เหมือนรายการอะไรซักอย่าง ไม่ใช่ๆ เอาใหม่ ถ้าคุณไม่รู้ทฤษฎีเลยเนี่ย จะทำให้คุณเกิดปัญหาหลักๆ .... ดังนี้
- ตอบคำถามลูกค้าไม่ได้
- แก้ ปัญหาไม่ได้ (เพราะการแก้ปัญหานอกจากจะใช้ประสบการณ์แล้ว ทฤษฎีนี่แหละคือสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งในการแก้ปัญหาทฤษฎีก็ไม่ช่วยนะ 555+)
ผมเคยได้เขียนเรื่องของการมี Certificate ติดตัวไว้เมื่อปีที่แล้ว ลองไปอ่านดูได้ครับ
>> อีกหนึ่งมุมมองในการมี Certificate ติดตัว <<
เพราะฉะนั้นสรุปการเตรียมตัวสอบครับ
ถ้าอยากสอบผ่านอย่างเดียว ท่องข้อสอบไปได้เลยครับ..... แต่ถ้าอยากผ่านแบบได้ความรู้ เตรียมตัวตามนี้ครับ
แนะนำหนังสือ
CCNP ROUTE
CCNP ROUTE Official Certification Guide By Cisco Press
How to master CCNP ROUTE By Rene Molinaar
CCNP ROUTE Simplified By Browning Paul
CCNP SWITCH
CCNP SWITCH Official Certification Guide By Cisco Press
How to master CCNP SWITCH By Rene Molinaar
CCNP SWITCH Simplified By Browning Paul
CCNP TSHOOT
CCNP TSHOOT Official Certification Guide By Cisco Press
How to master CCNP TSHOOT By Rene Molinaar
CCNP TSHOOT Simplified By Browning Paul
ของ TSHOOT ขอสอบจะไม่เหมือนกับ ROUTE กับ SWITCH ครับ จะมี Diagram มาให้เป็น Ticket ฬห้เราแก้ปัญหาตามที่โจทย์ต้องการ ลองดู Demo ตัวอย่างข้อสอบได้ที่นี่ครับ
>> TSHOOT Exam Demo <<
แนะนำเว็บไซต์ ต่างประเทศ
http://www.digitaltut.com/
-----> ดู LAB ที่มีในข้อสอบ
http://www.digitaltut.com/share-your-experience -------> ดู share-your-experience จากคนที่เคยสอบมา เป็นประโยชน์มากๆเลยครับ เช่น New question ดีมากๆ
เป็นกำลังใจให้ทุกคน สู้ๆ เพื่อ เส้นทางสู้ โลกของ Network ใครมีข้อสงสัยถามผมได้นะ ผมยินดีให้คำปรึกษาและตอบคำถาม
และมีพี่คนนึงเคยฝากข้อความไว้ว่า
อย่ามองโลกในแง่ร้าย แล้วก็อย่ามองโลกในแง่ดีจนเกินไป ไม่ว่าเซอร์หรือประสบการณ์ ทั้งคู่ไม่สำคัญเท่าความรู้หรือไหวพริบ
เคยสัมภาษณ์เด็กคนนึง พึ่งจบใหม่ๆ ไม่มีเซอร์ ไม่มีประสบการณ์ แต่พูดจาฉะฉาน ตอบตรงประเด็ด ไม่อ้อมค้อม ให้ลองทำแล็ป ไม่ว่าจะระดับ NA หรือ NP ก็ทำได้ คนแบบนี้ ไม่ต้องมีทั้งเซอร์หรือประสบการณ์ ใครก็อยากรับเข้าทำงาน หนึ่งปีผ่านไปเขาก็ได้ ปรับตำแหน่งเป็นซีเนีย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีเซอร์สักใบเหมือนเดิม บริษัทหลายบริษัทมาแย่งกันซื้อตัวแทบทุกเดือน
แต่กลับกันอีกคนทำงานมาห้าปี มีเซอร์ระดับ P เต็มตัว แทบจะครบทุกสาย แต่ทำอะไรแทบไม่เป็นเลย สั่งงานที กว่าจะทำเสร็จ เสียเวลาเป็นอาทิตย์ๆ ทุกวันนี้เป็นซีเนีย ยังไง ก็ยังเป็นแบบนั้น อยากจะลาออกก็ไม่ได้ ไม่มีที่ไหนอยากซื้อตัวไปทำงาน
อย่ามองว่าเซอร์คือยาวิเศษมีแล้ว จะทำให้ถนนลูกรังกลายเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ถ้าคิดแบบนั้น มันจะทำร้ายตัวเองเปล่าๆ ต่อให้ มีเซอร์ Arch แต่ถ้าในห้องสัมภาษณ์ไม่สามารถตอบคำถามได้สักคำ เขาก็ไม่รับเข้าทำงานหรอก "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เซอร์ แต่อยู่ที่ ว่ามีความรู้คู่ควรกับ เซอร์ใบนั้นๆ หรือยังต่างหาก"
สุดท้าย ผมมีสิ่งที่อยากจะฝากไว้ให้กับผู้ที่กำลังจะสอบหรืออยากจะสอบ CCNP ไว้ครับ
- พยายามอ่านทฤษฎีให้เข้าใจและฝึกทำ LAB เยอะๆ มันจะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น
- หนังสือในระดับ CCNP ไม่มีภาษาไทยให้อ่านแล้วนะครับ ต้องอ่าน text อย่างเดียวครับ
- ต้องแน่นพื้นฐานครับ แล้วเราจะต่อยอดขึ้นไปได้ง่าย เพราะถ้าคุณไม่แน่นพื้นฐานแล้วเวลาไปอ่านระดับ CCNP หรือ CCIE จะทำให้อ่านยาก ใครที่อ่าน CCNP หรือ CCIE อยู่แล้วคิดว่าอ่านยากไม่เข้าใจ ผมแนะนำให้กลับไปทวน CCNA ใหม่อีกครั้ง เพราะมันแสดงถึงว่า CCNA คุณยังไม่แน่นพอ เหมือนผมครับ ที่ต้องย้อนลงไปอ่าน CCNA ใหม่อีกครั้ง
"การที่ผมสอบ CCNP ผมไม่ต้องการเพื่อกระดาษ 1 ใบ ที่มีชื่อผมอยู่ในนั้นและบอกว่าผมเป็น CCNP Certified หรือเพื่อให้หางานได้ง่ายขึ้น เงินเดือนที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ผมต้องการคือความรู้และความสามารถที่จะได้นำไปใช้งานการทำงานจริง มากกว่า"
ผมจึงหวังว่าประสบการณ์ที่ผมได้แชร์ต่อให้หลายๆท่านได้อ่านกันคงเป็น ประโยชน์บ้างนะครับ แล้วไว้เจอกันคราวหน้า ผมจะแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัว CCIE ให้ครับ ถ้าผมมีเวลาว่าง ขอให้ทุกท่านสอบผ่านกันทุกคนนะคร้าบบบ ^_^
By ReFeeL
ยอดเยี่ยมครับ
ตอบลบขอบคุณที่แบ่งปันครับ ดีมากๆครับ กำลังเตรียมตัวอยู่ครับ เป็นแนวทางได้ดีมากๆครับ จะทำตามนี้ดูครับ
ตอบลบเป็นแนวทางที่ดีครับ
ตอบลบสุดยอดมากครับ
ตอบลบสุดยอดมากๆ
ตอบลบสุดยอมมากค่ะพี่
ตอบลบ